การแต่งห้องให้สวยด้วยการเลือกจับคู่สี เพื่อบ้านสวยมีมิติ ไม่เรียบจนเกินไป

การเลือกสีแต่งห้องหรือบ้านสีที่จะขาดไปไม่ได้เลยนั่นก็คือสีขาวหรือสีที่มีโทนออกสีขาวสว่างตา นั่นเป็นเพราะสีขาวหรือโทนขาวเป็นสีที่ให้ความรู้สึกสะอาดสบายตา และยังทำให้บ้านดูโล่งโปร่งสบายอีกด้วย สีขาวเป็นสีพื้นที่เหมาะแก่การเลือกแต่งห้องที่มีขนาดเล็กเพื่อที่จะได้ทำให้ห้องดูกว้างไม่แคบ แต่สำหรับบ้านหรือห้องที่มีพื้นที่การที่จะใช้สีขาวตกแต่งไปทั้งหมดนานเข้าอาจทำให้ดูน่าเบื่อ ดังนั้นวันนี้จะมาแนะนำการเลือกสีแต่งห้องที่เข้ากับสีขาว หรือเรียกอีกอย่างว่าการแต่งห้องสไตล์ทูโทน เพื่อเพิ่มมิติให้แก่บ้านทำให้บ้านมีสีสันดูไม่น่าเบื่อกันครับ

วิธีการตกแต่งที่นิยมใช้กันมาก คือ กำหนดให้สีขาวเป็นสีของผนัง เพดาน แล้วกำหนดรายละเอียดต่าง ๆ อาทิ รูปภาพบนผนังหรือของตกแต่งให้สีสันหลากหลายสวยงาม วิธีนี้เป็นวิธีที่ง่าย และสะดวก เพราะถ้าหากเบื่อสีสันของของประดับตกแต่งก็สามารถเปลี่ยนของตกแต่งสีอื่น ๆ เข้าไปแทนได้

อย่างไรก็ตาม การเลือกสีของประดับตกแต่งให้พิจารณาถึงความเข้ากันได้ของสีนั้น ๆ กล่าวคือ ในห้องหนึ่ง ๆ ไม่ควรมีสีสันที่หลากหลายมากนัก เพราะจะดูสับสนจนไม่รู้ว่าจัดวางคู่กันให้สวยได้อย่างไร ดังนั้นจึงขอแนะนำว่าควรจะจัดคู่สีให้กับสิ่งที่มาประดับประดาเหล่านั้นเสียก่อน เช่น จับคู่สีขาวกับคู่สีโทนร้อน หรือกับคู่สีโทนเย็น หรือคู่สีตรงกันข้ามต่าง ๆ

การใช้ควรคำนึงถึงสัดส่วนการใช้เทียบกับพื้นที่ใช้งาน เช่น ใช้สีโทนร้อน 70-80 เปอร์เซ็นต์ อีก 20-30 เปอร์เซ็นต์เป็นสีโทนเย็น เพื่อให้ได้คู่สีวรรณะร้อน หรือใช้สีโทนเย็น 70-80 เปอร์เซ็นต์ อีก 20-30 เปอร์เซ็นต์เป็นสีโทนร้อน เพื่อให้ได้คู่สีวรรณะเย็น ในกรณีของสีที่อยู่ตรงข้ามกันในวงจรสี เช่น ม่วง-เหลือง เขียวน้ำเงิน-ส้มแดง ฯลฯ ควรใช้คู่สีประมาณ 10-20 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่แล้วเบรกด้วยสีกลาง เป็นต้น

นอกจากนี้ยังสามารถจับคู่ด้วยสีอมตะอย่างสีดำ หรือสีพิเศษ เช่น ทอง เงิน มาใช้ในงานตกแต่งก็ทำได้ไม่ยาก แต่ต้องดูลักษณะการตกแต่งให้สอดคล้องกลมกลืนกัน โดยเฉพาะสีทองค่อนข้างจะเหมาะกับการตกแต่งในสไตล์ที่ให้ความหรูหรามากกว่าสีดำหรือสีเงิน

เป็นคู่สีที่ดูคลาสสิก ให้ความสุภาพ สะอาด และกราฟฟิก ตัวอย่างเช่น จุดสีดำบนกระดาษขาว หรือลายขาว - ดำบนตัวม้าลาย การตกแต่งด้วยคู่สีนี้ทำให้เราสามารถเพิ่มเติมสีสันอื่น ๆ เช่น สีของดอกไม้ หรือของตกแต่งได้ง่าย

คู่สีขาว – น้ำตาล

เป็นคู่สีในโทนธรรมชาติอีกคู่ที่มีความคลาสสิก สุภาพ สะอาด และอบอุ่น สีทั้งคู่จะช่วยขับเน้นซึ่งกันและกัน (ขึ้นอยู่กับสัดส่วนของการใช้สีทั้งสอง แต่ถ้าใช้น้ำตาลมากเกินไปอาจทำให้กลายเป็นเอิร์ธโทนได้) และง่ายต่อการตกแต่ง สามารถเข้ากับสีต่าง ๆ ได้ดี (ขึ้นอยู่กับเฉดของสีน้ำตาลที่ใช้) ทำให้ได้สถานที่ที่มีบรรยากาศอบอุ่น น่าสบาย เหมาะกับการพักผ่อน แต่บางครั้งก็ให้ความรู้สึกน่าเบื่อได้ จึงควรเพิ่มของตกแต่งที่มีสีสัน

คู่สีขาว - โทนสีร้อน

ตามปกติโทนสีร้อน เช่น แดง ส้ม เหลือง จะให้ความรู้สึกค่อนข้างแรง คือกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกน่าตื่นเต้น กระตือรือร้น สดชื่นแจ่มใส การนำสีขาวมาเข้าคู่กับสีโทนร้อน เป็นการทำให้เกิดสเปซหรือพื้นที่ว่าง ช่วยลดความรู้สึกที่รุนแรงของสีลง หากใช้สีขาวผสมลงไปในสีโทนร้อน ก็จะได้สีโทนพาสเทลที่อ่อนหวาน นุ่มนวล และโรแมนติก

คู่สีขาว - โทนสีเย็น

เป็นอีกคู่สีหนึ่งที่น่าสนใจ โดยเฉพาะการใช้สีขาวกับสีน้ำเงินโทนต่าง ๆ หรือ Blue & White ก็เป็นคู่สีคลาสสิกที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย และเข้ากับสีอื่น ๆ ได้ดี ดังนั้น จึงมักนิยมใช้ในบ้านพักตากอากาศริมทะเล เพราะสีสันกลมกลืนไปกับสถานที่ แต่ถ้าใช้สีผิดเฉดหรือผิดที่ผิดทาง ก็อาจทำให้รู้สึกน่าอึดอัด จืดชืด ดังนั้น การใช้ควรเลือกใช้ของตกแต่งที่มีสีในโทนน้ำเงินมาใช้ดีกว่า เพราะถ้าเบื่อ เราก็แค่เปลี่ยนของตกแต่งเป็นสีอื่นได้ง่าย และดูไม่ล้าสมัยเหมือนทาสีบ้านด้วยสีโทนนี้ นอกจากนี้ ยังมีสีโทนเย็นที่เข้าคู่กับสีขาวได้ดีและมีความคลาสสิกอีกสีหนึ่ง ก็คือสีเขียว ซึ่งให้ความสดชื่น ผ่อนคลาย และสามารถใช้กับการตกแต่งได้หลายสไตล์

คู่สีขาว - ทอง

จัดเป็นคู่สีพิเศษที่ให้ความหรูหราสง่างามอย่างที่สุด ทั้งนี้เพราะสีทองให้ความหมายถึงความมั่งคั่ง รุ่งเรือง สามารถใช้คู่กับสีได้หลายหลาก เช่น แดง - ทอง คู่สียอดนิยมของคนจีน ขาวทอง คู่สีที่นิยมใช้ในยุคคลาสสิก (บาโร้ค - ร็อคโคโค่) แต่ถ้าศึกษาให้ดีจะพบว่า คู่สีนี้จะใช้ในสถานที่พิเศษที่ต้องการความหรูหรา เช่น โถงบันได ห้องบอลรูม หรือสิ่งที่เกี่ยวข้องกับกษัตริย์ เป็นต้น

คู่สีขาว - เงิน

สีเงินนั้น ถ้าจะดูให้ดี ๆ ก็คือสีเทาที่ใส่วัสดุที่ทำให้เกิดความวาวแววเป็นพิเศษ หรือจะว่าอีกทีก็คือสีของโลหะต่าง ๆ ก็น่าจะได้ ดังนั้น จึงสามารถเข้ากับสีต่าง ๆ ได้ดี แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสไตล์การตกแต่งด้วย คู่สีขาว - เงิน จัดเป็นสีพิเศษที่ให้ความหรูหรา นำสมัย เหมาะกับยุคไซเบอร์ เป็นคู่สีที่นำมาใช้แทนความหมายของยุคสหัสวรรษ (2000) แต่ดีกรีความหรูหรายังเป็นรองสีทอง

ชุตินันท์ หงษ์ทอง, Author

Post a Comment