เชื่อว่าทุกๆ คนที่มีบ้านต่างก็อยากแต่งบ้านให้น่าอยู่ อยากเนรมิตห้องโล่งๆ ให้เป็นบ้านอย่างที่ตัวเองชื่นชอบกันทั้งนั้น แต่หลายๆ คนก็มักจะเจอปัญหา “งบประมาณไม่เพียพอ” “คุมงบไม่อยู่” “เอาเงินไปซื้อบ้านหมดแล้ว” ทำให้ไม่สามารถตกแต่งบ้านได้อย่างที่ตั้งใจ
นอกจากคำแนะนำเบื้องต้น คือ คุณต้องตั้งงบประมาณหรือแบ่งเงินสำหรับตกแต่งบ้านตั้งแต่ก่อนสร้าง/ซื้อบ้านแล้ว เรามีเทคนิคอีก 7 ข้อที่จะช่วยให้คุณคุมงบประมาณและตกแต่งบ้านได้สวยเก๋แบบกระเป๋าไม่ฉีกได้ ดังต่อไปนี้
1.มีภาพในใจที่ชัดเจนและวางแผนตกแต่งก่อน
การที่เราเข้าโชว์รูมเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านโดยไม่มีจุดมุ่งหมาย อาจทำให้คุณสูญเสียเงินไปกับสิ่งที่คุณไม่ได้ต้องการจริงๆ หรือไม่ได้เหมาะกับห้องที่คุณอยากจะตกแต่งเลย
ก่อนที่คุณจะออกไปตระเวนหาข้าวของเพื่อมาตกแต่ง ขอให้คุณเริ่มต้นจากการหาแรงบันดาลใจและร่างภาพให้ความคิดให้ชัดเจนก่อนว่าคุณอยากได้ห้องแบบไหน สไตล์ใด และสิ่งต่างๆ ที่จะนำเอามาตกแต่งต้องมีอะไรบ้าง โดยคุณสามารถหาแรงบันดาลใจได้หลากหลายวิธี
• None ดูแบบการตกแต่งห้องในอินเทอร์เน็ตและเพจเกี่ยวกับการตกแต่งบ้าน
• None เดินดูโชว์รูมหรือห้างสรรพสินค้า (และย้ำกับตัวเองว่า วันนี้เรามาดูแบบเป็นไอเดีย
และเมื่อคุณทราบแล้วว่าต้องการให้ห้องของคุณมีหน้าตาอย่างไร ก็ให้คุณทำรายการสิ่งของที่จะซื้อโดยแบ่งประเภทเป็น 1) ของใช้จำเป็น 2) เฟอร์นิเจอร์อำนวยความสะดวก 3) ของตกแต่ง เรียงลำดับตามความสำคัญ ทำเป็นแผนสิ่งของที่จะซื้อเพื่อจัดสรรและคุมงบประมาณที่ตั้งไว้
เฟอร์นิเจอร์เป็นสิ่งของชิ้นใหญ่ที่รองรับการใช้งานของเราอยู่เสมอ และแน่นอนว่ามีราคาสูง ไม่มีใครอยากเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์บ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะ ตู้ เตียง โซฟา ม้านั่ง ฯลฯ เมื่อจะเลือกเฟอร์นิเจอร์สักตัวจึงควรให้ความสำคัญกับคุณภาพด้านการใช้งานและระยะเวลาการใช้งานด้วย
นอกจากนี้ เนื่องจากเฟอร์นิเจอร์เป็นสิ่งของชิ้นใหญ่และเป็นองค์ประกอบหลักที่มีสัดส่วนมากที่สุดภายในห้องห้องหนึ่ง เฟอร์นิเจอร์จึงสามารถกำหนด Mood & Tone และสไตล์ของห้องๆ นั้นได้
หากคุณเลือกลงทุนกับเฟอร์นิเจอร์ที่ทั้งคุณภาพดีและหน้าตาตรงตามสไตล์ที่ต้องการ บางทีคุณอาจไม่ต้องเสียเงินในการหาสิ่งของอื่นๆ มาตกแต่งให้มากมาย ประหยัดงบประมาณลงได้จากการลงคุณกับสิ่งที่คุ้มค่าจริงๆ
ของชิ้นหนึ่ง เมื่อเวลาผ่านไป เราอาจไม่ต้องการมันอีกแล้ว ไม่ว่าจะเบื่อหรือชำรุด แต่หากเปลี่ยนสิ่งนั้นให้เป็นสิ่งใหม่ล่ะ ลองกลับความคิดพลิกมุมมอง หาความเป็นไปได้ใหม่ๆ …ของชิ้นเดิมอาจเป็นอะไรได้มากกว่านั้น ซึ่งแน่นอนว่า ไม่ต้องเสียเงินซื้อของใหม่
• นิตยสารเก่าๆ ที่ไม่ได้อ่านอีก หากจะนำไปชั่งกิโลขายคงได้เงินไม่กี่สตางค์ ลองปรับเป็นโต๊ะวางของอเนกประสงค์หรือโต๊ะวางโคมไฟข้างโซฟา เตียงนอน เพียงวางหนังสือกั้นแล้วหาถาดรองด้านบน หรือประดิษฐ์เสริมเติมแต้มตามความสร้างสรรค์ของคุณ หนังสือเก่าๆ ก็จะกลายเป็นโต๊ะตัวใหม่
• ตู้เย็นเก่าๆ พังแล้ว นำไปขายอย่างไรก็ไม่คุ้ม นำมาทำประโยชน์เป็นตู้หนังสือ ก็ดูเก๋ไก๋ และใช้งานได้คุ้มค่า หรือจะทำเป็นตู้เก็บของทั่วไป หรือพวกอาหารแห้งก็เข้าท่าดี เพราะประตูตู้เย็นจะปิดสนิท ไม่ต้องกังวลเรื่องความชื้น
• ลิ้นชักเก่าๆ นำมาปรับเป็นกระถางต้นไม้แบบชั้น โดยเฉพาะถ้าปลูกไม้ดอกไม้ประดับ คุณก็จะได้ของตกแต่งที่แปลกตา น่าสนใจกว่าลิ้นชักที่ไม่มีใครต้องการ
• ถังสังกะสีหรือถังไม้เก่าๆ ที่ยังแข็งแรง เพียงคว่ำปากถังลง วางเบาะ ก็จะได้เก้าอี้เก๋ๆ มานั่งแล้ว
ของเก่ามักจะมีเสน่ห์ที่เฉพาะตัวบางอย่างที่ทำให้หลายคนหลงรัก ต้องออกตระเวนหาตามตลาดของเก่า ตลาดนัด หรือร้านค้าของเก่าเมื่อว่าง และนอกจากกลิ่นอายเก่าๆ อันเป็นเสน่ห์แล้ว ‘ราคาที่ย่อมเยา’ ก็ดึงดูดใจให้หลายคนอยากหาของเก่ามาตกแต่งบ้านให้น่าอยู่บ้าง
คุณอาจมองหาเก้าอี้ไม้มือสองหลากสไตล์ มาวางเข้าชุดกับโต๊ะไม้เก่าๆ หรือหากรอปรูปเก่ามาตกแต่งรวมกัน หรือจะเป็นตู้เก่าราคาถูกซึ่งคุณอาจนำมาทาสีเพิ่มเติม ของเหล่านี้สามารถนำมาตกแต่งบ้านให้น่าอยู่กว่าเดิมได้ และของเก่าๆ ยังช่วยสร้างบรรยากาศวินเทจที่หลายคนหลงรักด้วย
หากคุณมีไอเดียตกแต่งบ้านและชอบประดิดประดอยอยู่แล้ว คุณคงเข้าใจดีว่า การสร้างผลงานของตัวเองและชื่นชมงานของตัวเองมันน่าภูมิใจมากแค่ไหน จึงอยากชวนคนที่อาจจะไม่เคยประดิษฐ์ของด้วยตัวเองแต่อยากประหยัดงบประมาณในการแต่งบ้าน ซึ่งต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการประยุกต์สิ่งของเช่นข้อที่ผ่านมาด้วย แต่รับรองว่าคุณจะสนุกกับการตกแต่งบ้านมากขึ้น
ลองดูไอเดียต่อไปนี้ และออกแบบบ้านในฝันด้วยสองมือของคุณเอง
• None ทาสีบ้านด้วยตัวเอง ลองคิดนอกกรอบ ลองหยิบเชือกมาพันลูกกลิ้งทาสี หรือนำใบไม้ไปทับผนังไว้ คุณก็สามารถรังสรรค์กำแพงบ้านแบบเฉพาะของคุณได้แล้ว
• None ประดิษฐ์จากวัสดุธรรมชาติ เพียงนำกิ่งไม้มาประกอบกับโคมไฟที่มีอยู่แล้ว คุณก็จะได้โคมไฟสไตล์คันทรี่มาตกแต่งบ้านให้ดูอบอุ่นน่าอยู่แล้ว
• None นำประตูไม้เก่ามาทำเป็นโต๊ะวางของอเนกประสงค์ ซึ่งคุณก็จะได้ลายสวยๆ จากบานหน้าต่างด้วยและความคันทรี่จากหน้าต่างไม้ ฯลฯ
ทั้งนี้ ไม่จำเป็นจะต้องประดิษฐ์ของชิ้นใหม่เท่านั้น หากมีอะไรที่คุณสามารถทำได้ด้วยตัวเอง ไม่ยากเกินไปจนต้องจ้างช่างฝีมือ เช่น พ่นสี ทาสี ตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ ฯลฯ ลองทำด้วยตัวคุณเองดู แล้วคุณจะสนุกกับการตกแต่งบ้านมากขึ้น
6.เลือกซื้อของพื้นเมือง ของทำมือ หรือสิ่งของจากวัสดุธรรมชาติ
สิ่งของเหล่านี้มักเป็นของจากชาวบ้าน ผู้ผลิตขายด้วยตัวเอง ไม่ต้องเสียค่าการตลาด ค่าเช่าที่ หรือค่าโฆษณา อีกทั้งยังอาจทำจากวัสดุพื้นถิ่น หาง่าย ต้นทุนไม่สูง ราคาขายจึงถูกตาม แต่ถึงถูกก็ไม่ได้แปลว่ามีคุณค่าน้อยกว่าของตามร้านชั้นนำ กลับกัน สิ่งของเหล่านี้เป็นของที่มีเพียงชิ้นเดียวบนโลก เกิดจากฝีมือของผู้สร้างสรรค์ หรือเป็นผลงานของธรรมชาติ
เมื่อไปท่องเที่ยวต่างจังหวัด ให้คุณลองมองหาของที่อาจนำมาแต่งบ้านได้ เช่น ผ้าทอลวดลายหรือสีสันแปลกตามาแขวนประดับ เครื่องจักสาน รากไม้ หรือจะพวกดอกไม้แห้ง โมบายลูกยาง ก็นำมาแต่งบ้านให้น่าอยู่ ให้บ้านดูผ่อนคลายลงได้
หลายคนเมื่อได้ซื้อแล้ว อารมณ์และความอยากได้ก็พัดพาไป พาลให้ซื้อของตกแต่งไปเรื่อยๆ ไม่หยุด หรือบางคนก็อยากเห็นหน้าตาของบ้านในฝันเร็วๆ อยากซื้อทุกอย่างในคราวเดีย ซึ่งแน่นอนว่า ต้องใช้เงินจำนวนมากในคราวเดียวเช่นกัน หากไม่วางแผนดีๆ ตั้งงบประมาณไม่เหมาะสม เงินที่คุณควรนำไปใช้กับสิ่งที่จำเป็นกว่าอาจหมดไปกับการตกแต่งบ้านได้
หากจะสรุปหัวใจสำคัญในการตกแต่งบ้านให้น่าอยู่ได้โดยที่กระเป๋าไม่ฉีก ก็คงมีอยู่ 3 ข้อที่อยากจะให้คุณยึดไว้ในใจเสมอ นั่นก็คือ 1) วางแผนและตั้งงบปรระมาณก่อนซื้อ 2) คิดนอกกรอบลองหาวิธีใหม่ๆ และ 3) ไม่ซื้อทุกอย่างในคราวเดียว เพียง 3 ข้อนี้ ก็น่าจะช่วยให้คุณคุมงบประมาณตกแต่งบ้านได้แล้ว
แต่หากเงินงบประมาณที่เหลือจากการซื้อ/สร้างบ้านนั้นน้อยนิดจริงๆ แต่ยังมีของจำเป็นที่ต้องการซื้อ นอกจากสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่ให้คุณกู้เพื่อมีบ้านเป็นของตัวเองได้แล้ว ธอส. ก็มีสินเชื่อสำหรับซื้อของตกแต่งเพื่อเป็นอีกทางเลือกให้บ้านในฝันของคุณเป็นจริงได้
Post a Comment