ชั้นวางของ มีความสำคัญอย่างมากในเรื่องของการจัดเก็บใน
แนวสูง การจัดเก็บโดยใช้ชั้นวางของนิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย
ไม่ว่าจะเป็น ตามบ้านเรือน ร้านค้า สำนักงาน โรงงาน โกดัง
เป็นต้น ประโยชน์ของชั้นวางของ คือ ช่วยเพิ่มพื้นที่ในการ
จัดเก็บได้มากขึ้น สามารถแยกของให้เป็นหมวดหมู่ได้ง่าย
เพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บได้ดีขึ้น วัสดุที่นำมาผลิตเป็น
ชั้นวางของนั้นมีหลากหลาย เช่น ไม้ พลาสติก เหล็ก อลูมิเนียม
เป็นต้น ชั้นวางของมีโครงสร้างที่ง่าย สามารถทำและประกอบ
เองได้ เหมาะสำหรับใช้วางของทั่วไป แต่ถ้าเป็นชั้นวางของใน
โรงงานอุตสาหกรรมหรือโกดัง ต้องเป็นชั้นวางของที่ได้มาตรฐาน
มีความแข็งแรง รับน้ำหนักได้ดี
การเลือกใช้ชั้นวางสินค้าควรเลือกให้ตรงกับรูปแบบสินค้าที่ต้องการจัดเก็บ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการใช้
พื้นที่ และความสะดวกในการทำงาน โดยหลักในการเลือกชั้นวางสินค้านั้นจะต้องเหมาะสมกับประเภทของสินค้า
ชนิดสินค้า ขนาดสินค้า และน้ำหนักของสินค้า หากมีการจัดวางในตำแหน่งที่ดีก็จะทำให้สินค้าที่โชว์โดดเด่นน่า
ดึงดูดลูกค้าได้ รวมถึงความคล่องตัวในการเข้าถึงพื้นที่ โดยเฉพาะขนาดความสูง ความกว้าง ความยาว ของชั้น
วางสินค้าจะต้องเหมาะสมกับพื้นที่ที่ใช้ในการติดตั้งชั้นวางสินค้า ต้องมีความแข็งแรงสามารถรองรับน้ำหนักได้ดี
เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเคลื่อนย้ายสินค้าเข้าออกได้สะดวกและปลอดภัย
• ชั้นวางของในสำนักงาน มีขนาดที่ไม่ใหญ่ รับน้ำหนักได้ไม่มาก มีหลายรูปแบบ เช่น ชั้นวางเอกสารในสำนักงาน ออฟฟิศ เป็นต้น
สำหรับชั้นวางของนั้นทำมาจากวัสดุหลายชนิดไม่ว่าไม้สังเคราะห์ ไม้อัด กระจก เหล็ก และพลาสติก เป็นต้น
ดังนั้นวัสดุที่แตกต่างกันการดูแลบำรุงรักษาชั้นวางของก็จะต่างกันด้วย เช่น ชั้นวางของที่ทำจากกระจกสามารถ
ปัดฝุ่นและใช้น้ำยาเช็ดทำความสะอาดให้สะอาดเงางาม ชั้นวางของที่ทำจากวัสดุไม้สังเคราะห์หรือไม้อัด ไม่ควร
ติดตั้งในสถานที่ที่มีความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้เปื่อยผุพัง ชั้นวางของหนักที่ผลิตจากเหล็ก ควรหลีกเลี่ยงการ
สัมผัสกับก๊าซกัดกร่อนที่มีฤทธิ์เป็นกรด เพื่อป้องกันการเกิดรอยด่างและเกิดสนิม และควรหลีกเลี่ยงการโดน
แสงแดดโดยตรงเพื่อให้ชั้นวางของมีความคงทนและมีอายุการใช้งานได้ยาวนานขึ้น
เป็นการนำระบบบริหารจัดการคลังสินค้าหรือที่เรียกกันว่าระบบ WMS (Warehouse Management System) ที่มีความทันสมัยและมีประสิทธิภาพเข้ามาช่วยตั้งแต่
กระบวนการรับสินค้า การจัดเก็บสินค้า การเบิกสินค้า ไปจนถึงการจัดส่งสินค้าให้ถึงมือลูกค้าได้อย่างถูกต้องตรงตามที่ลูกค้าต้องการและสามารถตรวจสอบได้ โดยเฉพาะ
งานคลังสินค้าที่มีความหลากหลายของชนิดสินค้า มีข้อมูลของสินค้าที่ละเอียดซับซ้อน ถ้ามีระบบการจัดการคลังสินค้าที่ดีจะช่วยลดความผิดพลาดในการให้บริการลูกค้า
สามารถควบคุมปริมาณสต็อกสินค้าได้ถูกต้องแม่นยำ ช่วยลดระยะเวลาในการทำงาน และยังช่วยลดต้นทุนในการใช้พื้นที่การจัดเก็บสินค้าได้มีประสิทธิภาพและคุ้มค่า
มากที่สุด
ชั้นวางสินค้าอุตสาหกรรมบางรุ่นสามารถนำมาประกอบใช้เอง โดยใช้อุปกรณ์เพียงไม่กี่ชิ้น เช่น โครงเสา,
คานประกอบ, สเตย์ตรง, สเตย์เฉียง, คานขวาง, ฐานเสา, น็อต, และแผ่นฐานจากวัสดุไม้หรือเหล็ก
เพียงยึดต่อชิ้นส่วนต่างๆ ก็สามารถใช้งานได้ทันที
วิธีการประกอบชั้นวางสินค้าอุตสาหกรรม
• นำฐานเสา โครงเสาและสเตย์ตรง สเตย์เฉียง มาประกอบกัน และขันน๊อตยึดฐานทั้ง 2 ข้างให้แน่น
• นำแผ่นฐานจากวัสดุไม้หรือเหล็ก มาวางลงตามร่องของคานประกบให้อยู่ในระดับเดียวกัน โดยแต่ละชั้น
ควรเว้นระยะห่างกันอย่างน้อย 30 ซม.
• รถโฟร์คลิฟท์ เป็นรถสำหรับยกของหรือเคลื่อนย้ายสินค้าต่างๆ ไปวางบนพาเลทหรือบรรจุภัณฑ์อื่นๆ ไปยังบริเวณที่ต้องการ สามารถยกของหนักและยกของขึ้นที่สูงได้ดี
• รถลากพาเลท เป็นอุปกรณ์ที่ใช้เคลื่อนย้ายพาเลทหรือวัตถุที่มีน้ำหนักมาก เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่แคบ และจัดเก็บง่าย
• รถเข็น นิยมใช้งานในคลังสินค้า ใช้สำหรับขนส่งหรือวางสิ่งของจำนวนมาก เพื่อนำมาจัดเรียงสินค้าตามชั้นวางของ เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่แคบๆ และพื้นเรียบ
• ตู้เก็บอะไหล่ขนาดเล็ก โครงสร้างแบ่งกั้นเป็นช่องๆ มีกล่องพลาสติกใส่ตามชั้นวาง ใช้สำหรับจัดเก็บชิ้นส่วนอะไหล่ ตะปู น็อต เป็นต้น เพื่อง่ายและสะดวกในการค้นหา
• กล่องเก็บของ
กล่องเก็บของ, Storage Box ตัวช่วยจัดเก็บสินค้าในโกดัง มีหลากหลายแบบให้เลือกใช้
• ถุงขยะ
ถุงขยะ, Garbage Bag เหนียว ขาดยาก สามารถใช้ได้กับขยะในโรงงาน เช่น เศษไม้ เศาปูน ขยะอันตราย
Post a Comment