บ้านปูน ถ้าไม่ตกแต่งอะไรเลยก็คงจะดูธรรมดาน่าเบื่อเกินไป แต่ถ้าหากเราแต่งผนังให้สวยแล้วบ้านของเราคงดูโดดเด่น และสวยทันสมัยขึ้นไม่น้อย ซึ่งในการ “ตกแต่งผนังบ้าน” แต่ละหลังก็จะมีการตกแต่งที่แตกต่างกันออกไป แม้กระทั่งในบ้านหลังเดียวกัน ผนังบ้านแต่ละด้านยังไม่เหมือนกันเลยแล้วแต่การใช้สอย และสไตล์ความชอบส่วนตัวของแต่ละพื้นที่ โดยส่วนมากจะเป็นผนังทาสี ติดวอลล์เปเปอร์ ผนังไม้ฝา ผนังฉาบแต่งผิวหลากรูปแบบ ผนังปูนเปลือยขัดมัน หรือผนังก่ออิฐโชว์ซึ่งกำลังเป็นแนวที่นิยมในขณะนี้ ทั้งนี้การทำพื้นผิวผนังให้สวยงามได้เรียบเนียนกริ๊บ จำเป็นต้องอาศัยฝีมือช่างที่มีความเชี่ยวชาญที่เคยมีประสบการณ์ประกอบด้วย เพราะพื้นผิวเหล่านี้แต่ละแบบต้องมีการเตรียมการและเทคนิคที่แตกต่างกัน ซึ่งในวันนี้เราจะนำเทคนิคการการตกแต่งผิวผนังปูนแต่ละแบบ มาฝากกันค่ะ
การเลือกใช้ผนังแนวนี้จะให้บรรยากาศกลิ่นอายโรงงานแบบสไตล์ลอฟท์ (Industrial Loft) ซึ่งจะช่วยทำให้สายตาได้สัมผัสกับการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างปูนกับอิฐ การจัดทำแพทเทิร์นก็ไม่สลับซับซ้อนเท่าไหร่ เพียงแต่ต้องอาศัยฝีมืออันประณีตบรรจงในการเรียงอิฐปูนก่อทั้งแนวนอนและแนวตั้ง เว้นแต่บ้านของคนที่ต้องการความแปลกแนวไม่เหมือนใครอาจจะต้องใช้เป็นการเรียงอิฐที่แตกต่างออกไป ไม่ต้องมีระเบียบแบบแผน เพราะผนังลักษณะนี้ไม่ว่าจะก่อเป็นแนวไหนก็ให้ความสวยได้เหมือนกัน
เป็นผนังที่ทำให้หลายคนหลงใหลมากมาย ด้วยความที่เป็นผนังแบบเรียบง่ายแต่แฝงไว้ซึ่งรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ ซึ่งผิวผนังปูนจะเป็นสีที่ไม่เรียบเนียมสม่ำเสมอกัน การทำงานก็ไม่ยุ่งยากซับซ้อน เพียงแค่ก่ออิฐฉาบปูน 2 ชั้น โดยชั้นแรกจะเป็นปูนรองพื้น ชั้นสองคือปูนสำหรับตกแต่ง ที่ต้องมีการสลัดผงปูนซีเมนต์แล้วฉาบด้วยเกรียงเหล็กให้ทั่วในขั้นตอนสุดท้าย ซึ่งหลังจากฉาบเสร็จแล้วก็สามารถโชว์พื้นผิวได้เลย แต่หากว่าชอบให้เรียบเนียบของพื้นผิว ก็สามารถใช้กระดาษทรายเบอร์หยาบไปจนถึงเบอร์ละเอียดสุดขัดเพื่อให้พื้นผิวเรียบเนียนไม่มีสะดุดด้วยก็ได้
เหมาะสำหรับคนชอบให้พื้นผิวผนังมีลวดลาย สีสันหลากหลาย ปัจจุบันวอลล์เปเปอร์ได้ผลิตออกมาจำหน่ายให้เลือกมากยิ่งขึ้น หรือบางคนเชื่อว่าการติดวอลล์เปเปอร์เพื่อจะได้ช่วยปกปิดความไม่เรียบร้อยของผนัง แต่ในความเป็นจริงแล้วการจะติดวอลล์เปเปอร์ได้จะต้องเตรียมพื้นผิวผนังอย่างเรียบเนียบพิเศษเสียก่อน เริ่มจากผนังก่ออิฐฉาบปูนชั้นแรก และจึงฉาบปูนชั้นสองซึ่งจะเป็นชั้นตกแต่ง ในขั้นตอนนี้แนะนำว่าให้ใช้ “ปูนฉาบสูตรพิเศษ” ในชั้นนี้ เพราะว่าจะมีความเรียบเนียบดูดีกว่าการฉาบปูนปกติทั่วไป เพื่อให้ได้เวลาปูวอลล์เปเปอร์ที่เรียบสวยงาม ไม่มีร่องรอยสะดุดหรือรอยย่น
อีกทางเลือกหนึ่งของเจ้าของบ้านที่จะแต่งเติมสีสันให้บ้านได้สวยงามตามแต่ละสไตล์ที่ต้องการ และด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้นจึงมีการเพิ่มคุณสมบัติเรื่องการทนแดด ทนฝน รวมทั้งการทำความสะอาดพื้นผิวที่ทำให้ได้ง่ายขึ้น สิ่งสำคัญก็คือพื้นผิวภายใต้สีทาผนัง แนะนำให้ใช้ “ปูนฉาบสูตรพิเศษ” เพื่อให้ผนังปูนเรียบเนียบก่อนที่จะเริ่มลงมือทาสี และปัจจุบันได้มีผลิตภัณฑ์ซีเมนต์ตัวใหม่ออกมาใช้ทดแทนการทาสี เรียกกันว่า “สีซีเมนต์ เดคอร์ Paint” โดยจะมีลัษณะเป็นแบบผงที่ง่ายเพียงนำมาผสมน้ำก็ใช้ทาผนังได้ทันที ก็จะได้ผนังสีที่สดสวยงามแลดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
หากต้องการความมีเอกลัษณ์เฉพาะตัวมากขึ้น การเลือกใช้ปูนฉาบตกแต่งผิวสีจะช่วยตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี มีทั้งแบบเรียบเนียน “Skim Coat” และแบบที่มีผิวสัมผัส “Color Render” ซึ่งวิธีนี้จะช่วยเนรมิตผนังสวยด้วยสี ผิวสัมผัศ รูปแบบ รวมทั้งลวดลายที่จัดแต่งได้ตามจินตนาการ เพียงแค่มีผนังก่ออิฐฉาบปูนตามปกติก็สามารถลงมือฉาบและทำลวดลายสวยได้ทันที หรือกรณีที่เป็นระบบผนังโครงเบากับแผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์ซึ่มีผิวค่อนข้างเรียบดีอยู่แล้ว ก็ทำการฉาบทับได้ด้วยเช่นกัน โดยมีความหนาของปูนฉาบเพียง 2-3 มม.เท่านั้น
การเลือกใช้ผนังไม้จะทำให้คุณได้มีโอกาสใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น อีกทั้งยังมาช่วยปรับอารมณ์และเปลี่ยนบรรยกาศให้บ้านน่าอยู่มากยิ่งขึ้น ซึ่งไม้ธรรมชาติอาจมีราคาสูงการจะตกแต่งผนังทั้งหมดจะทำให้สิ้นเปลืองงบประมาณ ลองเปลี่ยนมาใช้เป็น “ไม้สังเคราะห์” หรือ “ไม้เทียม” แทนก็ได้ แถมยังไม่ต้องกังวลว่าจะโดนปลวกกิน และทนต่อการบวมน้ำได้เป็นอย่างดี
ผนังลักษณะนี้จะให้ความสวยงาม แข็งแกร่ง ทนทาน ส่วนมากนิยมมาใช้ในบริเวณที่ต้องสัมผัสกับน้ำบ่อยๆ หรือมีโอกาสที่จะเกิดคราบเปื้อนได้ง่าย เช่น ในห้องครัว,ห้องน้ำ เพราะการดูแลทำความสะอาดง่าย ส่วนถ้าใครมีความกังวลว่าวัสดุชนิดนี้จะมีน้ำหนักที่มากกว่าวัสดุอื่น อาจทำให้พื้นผนังรับน้ำหนักไม่ไหว แต่ขอให้มั่นใจได้ว่า ผนังก่ออิฐฉาบปูนปกติหรือผนังโครงสร้างเบาก็สามารถรับน้ำหนักได้หากมีการติดตั้งได้ตามมาตรฐาน ซึ่งเพียงแค่ฉาบปูนชั้นรองพื้นเพียงชั้นเดียวก็กรุกระเบื้องหรือหินธรรมชาติติดเข้าไปได้แล้ว
ดังนั้นการเลือกผนังแต่ละรูปแบบจะมีการเตรียมพื้นผิวและการทำงานที่แตกต่างกัน บางวัสดุต้องเตรียมพื้นผิวอย่างเรียบที่สุด บ้างก็ฉาบให้ได้ระดับก็เพียงพอ ส่วนเรื่องของการใช้งานก็ต้องขึ้นอยู่กับความเหมาะสม บางประเภทก็สมควรใช้กับงานภายนอก หรือบางประเภทเหมาะกับการใช้งานภายในเท่านั้น ซึ่งนอกจะเลือกตามความชอบและเตรียมพื้นผิวให้ถูกต้องแล้ว ต้องเลือกให้ตอบโจทย์ต่อการใช้สอยอีกด้วยค่ะ
Post a Comment