ในช่วงสถานการณ์ที่โควิด 19 กำลังระบาดเช่นนี้ ทำให้หลาย ๆ คนเลือกที่จะออกไปทำธุระนอกบ้านเท่าที่จำเป็น แต่สิ่งหนึ่งที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ก็คือการออกไปซื้ออาหารมากักตุนไว้ที่บ้าน เพราะอาหารถือเป็นปัจจัย 4 ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ และการซื้ออาหารมาครั้งละมาก ๆ ก็นับว่าเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้คุณออกไปเสี่ยงรับเชื้อข้างนอกบ้านได้น้อยลง

แต่แน่นอนว่าการซื้ออาหารในแต่ละครั้งจะต้องมีทั้งอาหารสดและอาหารแห้ง หากเป็นอาหารแห้งจำพวกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป, ปลากระป๋อง หรือผลไม้กระป๋องคุณอาจจะเก็บได้นานหน่อย แต่หากเป็นอาหารสดมันก็มักจะบูดและเสียได้เร็ว ดังนั้นเพื่อให้อาหารสดที่ซื้อมามีอายุได้นานที่สุด คุณจะต้องใช้วิธีถนอมอาหารต่าง ๆ มาช่วยยืดอายุอาหาร ไม่ว่าจะเป็น การใช้ตู้แช่แข็ง, การใช้ถุงซิปล็อค, การใช้เครื่องซีลสุญญากาศเก็บในช่องฟรีซ แต่อย่างที่ทราบกันดีว่าพื้นในช่องฟรีซนั้นมีน้อยมาก ดังนั้นการแปรรูปอาหารสดให้เป็นแบบพร้อมทานไว้ครั้งละมาก ๆ จะช่วยทำให้อาหารอยู่ได้นานขึ้นและยังง่ายต่อการเตรียมอาหารกลางวันในยุคสมัยใหม่ที่ต้องทำงานแข่งขันกับเวลาอีกด้วย ซึ่งอุปกรณ์ที่จะช่วยให้คุณเก็บอาหารให้มีอายุได้นานขึ้นและสะดวกต่อการพกพา ก็คือ “กล่องเก็บอาหาร / กล่องใส่อาหาร” ค่ะ

เพราะกล่องเก็บอาหารเหล่านี้มักมีการออกแบบมาให้ป้องกันการรั่วซึมได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้พกพาออกไปนอกสถานที่ได้โดยไม่ต้องกลัวว่าอาหารจะหกเลอะเทอะระหว่างทาง อีกทั้งยังเน้นรูปทรงสี่เหลี่ยมที่ประหยัดพื้นที่และง่ายต่อการจัดเก็บในตู้เย็นให้เป็นระเบียบ รวมถึงยังสามารถใช้ใส่ได้ทั้งของร้อนและของเย็นโดยไม่ต้องกังวลเรื่องพลาสติกปนเปื้อนในอาหาร และยังเก็บได้ทั้งอาหารสด อาหารแห้ง และอาหารปรุงสุกก็ได้อีกด้วย การทำอาหารทานเองเช่นนี้ นอกจากจะช่วยลดความเสี่ยงในการรับเชื้อจากภายนอกแล้ว ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในแต่ละมื้อ และยังสามารถควบคุมปริมาณแคลอรีในแต่ละวันได้ง่ายขึ้น รวมถึงยังช่วยลดปัญหาโลกร้อนอีกด้วยค่ะ

โดยในปัจจุบันนี้กล่องเก็บอาหารมีให้เลือกมากมายหลายประเภท ทั้งแบบพลาสติก แบบแก้ว หรือแบบสแตนเลส ส่วนขนาดนั้นก็มีตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ ดังนั้นหากใครอยากมีกล่องเก็บอาหารดี ๆ สักใบไว้ใช้ใส่กับข้าวหรือใส่ของสด ก็อย่าลืมดูวิธีเลือกซื้อกันด้วยนะคะ และหากคุณยังไม่รู้ว่าควรเริ่มต้นจากตรงไหนดี วันนี้มีเราข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับกล่องเก็บอาหารมาฝากกันค่ะ

• พลาสติก Polycarbonate (โพลีคาร์บอเนต) วัสดุชนิดนี้มีจุดเด่นคือ มีความคมชัด ใส กันกระแทก สามารถใส่ได้ทั้งช่องแช่แข็ง และ ความร้อน และมีราคาค่อนข้างแพง

• พลาสติก Polyethylene (โพลิเอทิลีน) วัสดุที่ทำจากโพลิเอทิลีน จะมีลักษณะเป็นสีขาวทึบ คุณสมบัติจะเหมือนกับพลาสติกโพรพิลีน คือ ปลอดสารก่อมะเร็ง Bisphenol-A (BPA) 100% ทนต่อสารเคมี แต่จะมีความคงทนต่อแรงกระแทกและรอยเปื้อนได้มากกว่าพลาสติกโพรพิลีน

• แก้ว ภาชนะแบบแก้ว ถึงจะไม่ได้รับความนิยมเท่าแบบพลาสติก แต่มีข้อดีคือ ทนความร้อนและความเย็นได้ดี ทำความสะอาดง่าย ไม่ค่อยมีคราบไขมันติดเหมือนพลาสติก มีอายุการใช้งานนาน สามารถนำเข้าเตาอบได้ แต่ราคาจะค่อนข้างแพงและต้องระวังเรื่องการตกแตกค่ะ

• สแตนเลส ภาชนะแบบสแตนเลสแม้จะมีน้ำหนักหนักมาก แต่สามารถนำมาใช้งานได้หลากหลาย มีความแข็งแรง ทนทาน ไม่บุบ และยังทำความสะอาดง่าย โดยไม่มีกลิ่นตกค้าง ซึ่งตัวสแตนเลสจะไม่ทำปฏิกิริยากับสารต่าง ๆ ในอาหาร และสามารถเก็บความร้อนได้ดีด้วยค่ะ

• แบบทรงกลม จะมีลักษณะเรียบหรู ช่วยทำให้อาหารเย็นเร็วขึ้น ลดการใช้พลาสติก เหมาะสำหรับการใส่อาหารประเภท ซุป และแกง ต่าง ๆ แต่จะค่อนข้างกินพื้นที่ในการจัดเก็บภายในตู้เย็นหน่อยนะคะ

• แบบทรงสี่เหลี่ยม ส่วนใหญ่ภาชนะเก็บอาหารที่ขายตามท้องตลาดทั่วไปจะเป็นทรงสี่เหลี่ยมค่ะ เพราะมีพื้นที่ในการจัดเก็บอาหารได้มากขึ้น ใช้พื้นที่ในการเก็บที่เล็กลง เหมาะสำหรับการเก็บอาหารประเภทผักสด ผลไม้ หรืออาหารทั่วไป

การเลือดขนาดของกล่องก็เป็นสิ่งสำคัญค่ะ เราต้องดูก่อนว่าเราจะนำภาชนะไปใส่อะไร ถ้าใส่อาหารปริมาณน้อย เช่น ใส่น้ำจิ้ม หรือซอส ก็ควรใช้ภาชนะแบบเล็ก แต่หากเป็นประเภทที่ใหญ่ขึ้น เช่น ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ ก็ควรเลือกใช้ขนาดให้เหมาะสมกับปริมาณของอาหารค่ะ

ก่อนการเลือกซื้อเราต้องดูก่อนค่ะ ว่าภาชนะที่เราเลือกมีคุณสมบัติแบบไหน ปลอดสารป้องกันมะเร็งหรือไม่ หรือหากบ้านใครที่มีเครื่องล้างจาน ต้องดูด้วยนะคะว่าภาชนะนั้น ๆ สามารถนำเข้าเครื่องล้างจานได้หรือเปล่า รวมไปถึงการนำภาชนะเข้าไมโครเวฟที่มีความร้อนสูงหรือการนำเข้าช่องแช่แข็งที่มีความเย็นจัดได้หรือไม่ ทั้งนี้ควรดูข้อบ่งชี้ที่ฉลากให้ดีนะคะ เพื่อความปลอดภัยจะได้ไม่นำมาใช้ผิดประเภทค่ะ

อาหารถือเป็นปัจจัย 4 ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ ซึ่งเราทุกคนจะต้องทานอาหารวันละ 2-3 มื้อเป็นอย่างต่ำ ทำให้หลาย ๆ คนเลือกที่จะกินข้าวจากนอกบ้านให้เสร็จก่อนจะกลับที่พัก แต่ในช่วงที่โรคโควิด 19 กำลังระบาดเช่นนี้ทำให้เราไม่สามารถนั่งทานอาหารในร้านได้อย่างสนิทใจ หลาย ๆ คนจึงเลือกที่จะซื้ออาหารกลับมาทานที่บ้านแทน แต่เพื่อน ๆ เคยสังเกตกันไหมคะว่าสิ่งที่จะมาพร้อมกับอาหารเหล่านั้นคืออะไร? สิ่งนั้นก็คือถุงพลาสติกและกล่องโฟมนั้นเองค่ะ ซึ่งปัญหาขยะพลาสติกที่กำลังล้นโลกอยู่ตอนนี้ส่งผลผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งยังสร้างมลพิษทางน้ำ อากาศ และทางพื้นดินเป็นอย่างมาก

ทำให้หลาย ๆ ประเทศรวมถึงประเทศไทยของเราก็เริ่มที่จะรณรงค์ลดการใช้พลาสติกกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการงดรับถุงพลาสติกตามร้านสะดวกซื้อโดยให้ผู้บริโภคให้หันมาใช้ถุงผ้าแทน หรือการตั้งแคมเปญพกแก้วน้ำมาเองก็จะลดราคาเครื่องดื่มในร้านได้ รวมถึงการพกกล่องข้าวหรือปิ่นโตใส่อาหารไว้สำหรับตอนไปซื้อกับข้าวที่ร้านอาหาร วิธีนี้ก็จะทำให้คุณประหยัดการใช้ขยะพลาสติกไปได้อีกเยอะเลยค่ะ แต่สำหรับหนุ่มสาวออฟฟิศยุคใหม่ที่ต้องออกไปทำงานตั้งแต่เช้าถึงเย็น บวกกับเศรษฐกิจแบบนี้ การทำมื้อกลางวันไปทานที่ทำงาน ก็คงช่วยประหยัดเงินได้มากเลยใช่ไหมล่ะคะ ดังนั้นหากเรามีกล่องเก็บอาหาร ไว้ใส่อาหารไปทานที่ออฟฟิศ นอกจากจะทำให้ได้ทานอาหารที่ปรุงสดใหม่แล้ว ยังเซฟเงินในกระเป๋าได้ดีเลยล่ะค่ะ

เป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับบทความเกี่ยวกับภาชนะเก็บอาหารที่ได้รีวิวไปในวันนี้ อย่างที่ทุกคนทราบค่ะว่า กล่องเก็บอาหาร เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับห้องครัว โดยจะมีรูปร่าง ขนาด และวัสดุที่ต่างกัน โดยแต่ละแบบจะมีลักษณะพิเศษเฉพาะตัว นอกจากจะใช้ใส่อาหารได้แล้ว ยังเอาไว้ล้างผักผลไม้ หรือจะเอาไว้จัดระเบียบตู้เย็น ก็สามารถทำได้เช่นกันค่ะ ดังนั้นหากใครจะเลือกซื้อภาชนะเก็บอาหารสักใบ ก็อย่าลืมคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ด้วยนะคะ

ชุตินันท์ หงษ์ทอง, Author

Post a Comment