ต้องบอกเลยว่าในการแต่งบ้านปัจจุบันนี้ ปัญหานึงที่พบเจอโดยทั่วไปของคนที่อยากแต่งบ้านกับคนที่จะออกแบบแต่งบ้านให้ก็คือ การสื่อสารรูปแบบสไตล์หรือใช้คำเรียกนั้นไม่ค่อยจะตรงกัน คนแต่งบอกชอบแบบโมเดิร์น แต่พอคุยๆ ไป ดีไซเนอร์ก็พบว่าจริงๆ เขาอยากได้แบบมินิมอลนี่หนา (แน่นอนว่าคำว่าโมเดิร์นมันกว้างมาก)
ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ที่จะต้องมาปรับจูนความเข้าใจกันอีกครั้งเพื่อให้เราได้บ้านที่ถูกใจ โดยหากเรามีพื้นฐานการเรียกสไตล์ให้ถูกอยู่นั้น ก็จะช่วยให้ทั้งเราและดีไซเนอร์สามารถทำงานด้วยกันได้ง่ายขึ้นมาก
สไตล์ Loft (ลอฟท์) จะเป็นสไตล์นึงที่ถูกเรียกบ่อยๆ ในปัจจุบันค่อนข้างมาก มักมาในรูปแบบผนังปูนดิบๆ มีรอยเขรอะๆ ดูเป็นบ้านแบบไม่ได้ตกแต่งวิจิตรอะไรมากซึ่งจริงๆ แล้วบ้านสไตล์ Loft ก็คือบ้านที่มีรูปแบบที่มีการตกแต่งที่มีไอเดียของการโชว์เนื้อแท้ของวัสดุกันไปเลย
ผนังอิฐเป็นอิฐ ผนังปูนเป็นปูน เหล็กเป็นเหล็ก การเดินสายไฟแบบโชว์ไปเลย การที่สไตล์ Loft เป็นรูปแบบที่ถูกมีขึ้น ก็เป็นผลมาจากยุคนึงในตะวันตกมีการเอาโกดังและโรงงานเก่ามาปรับปรุงเป็นบ้านนั่นเอง จึงกลายเป็นเทรนด์ที่นิยมและทำตามกันมาถึงปัจจุบัน
สไตล์ Minimal (มินิมอล) คือสไตล์การตกแต่งหรือไอเดียที่ว่า ดูน้อยแต่มีความน่าสนใจซ่อนอยู่ ทำให้สไตล์ Minimal ที่เราเห็นบ่อยครั้ง มักเป็นบ้านที่ดูเรียบ ดูน้อย แต่มีสัดส่วนและจังหวะที่ดูคิดมามาก เฟอร์นิเจอร์สีสันน้อยๆ ไม่ว่าจะมีสีสันหรือวัสดุแบบไหน ถ้าเป็นรูปแบบที่เรียบคม ก็จะคือสไตล์ Minimal
โดยจุดเริ่มต้นของสไตล์ Minimal นั้นเกิดจากยุคสมัยหลัง Post-Modern ที่การตกแต่งทุกอย่างดูเยอะไปหมด ทำให้สไตล์เรียบๆ แบบนี้ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อบาลานซ์โลกที่มีความเยอะให้น้อยลงนั่นเอง
สไตล์ Zen (เซน) จะคือสไตล์ที่คนมักจำสับสนกับสไตล์มินิมอลบ่อยครั้งๆ เพราะด้วยหน้าตาและรูปแบบไอเดียค่อนข้างคล้ายกันมากๆ แต่โดยสไตล์ Zen แล้วนั้นจะออกมาในกลิ่นอายที่ค่อนไปทางเอเชียโดยเฉพาะญี่ปุ่น
เพราะว่า Zen นั้นคือปรัชญาของพุทธมหายาน ทำให้การตกแต่งถูกล้อมาจากพวกสวนหิน Zen ที่มีเรือนชานไม้ไว้นั่งครุ่นคิดบ้านสไตล์จึงมีการเลือกใช้วัสดุไม้และสีสันตกแต่งคล้ายบ้านญี่ปุ่น ที่มีความเรียบๆ น้อยๆ นั่นเอง
สไตล์แบบ Cozy (โคซี) ก็จะเป็นอีกคำนึงที่เราได้ยินกันบ่อยๆ ซึ่งถ้าให้เรียกง่ายๆ ก็คือการแต่งบ้านสไตล์สบายๆ บ้านๆ ไม่เรียบร้อยมาก อยู่แล้วผ่อนคลาย รู้สึกอบอุ่น โดยมักเป็นสไตล์ที่เรามักเห็นได้ตามภาพบ้านใน Pinterest นั่นเอง
รูปแบบการตกแต่งนั้นจะมีความอิงธรรมชาติ พยายามให้มีแสงธรรมชาติเข้ามาในห้อง มีการใช้วัสดุอิงแนว Earth Tone สบายตา บวกกับเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่ได้ต้องเข้าคู่มาก ทำให้อยู่และไม่ฝืนเกร็ง
สไตล์ Tropical (ทรอปิตอล) ก็คือการตกแต่งบ้านในประเทศที่มีภูมิอากาศร้อนชื้น มีการเลือกวัสดุในพื้นถิ่นร้อนชื้นมาประยุกต์ตกแต่ง ไม่ว่าจะวัสดุไม้ไผ่สาน พื้นไม้แดง เก้าอี้หวาย โดยยิ่งเฉพาะเมืองไทยนั้นที่เป็นประเทศแบบ Tropical
ทำให้สไตล์การตกแต่งแบบนี้มีเสน่ห์และเป็นที่นิยมนำมาตกแต่งตามพวกรีสอร์ทและโรมแรมหลายดาวต่างๆ ทำให้บ้านสไตล์ Tropical นี้นอกจากจะดูอบอุ่นแต่ตอบโจทย์ความเป็นไทยในรูปแบบนึงอีกด้วย
สไตล์ Vintage (วินเทจ) ก็จะเป็นอีกสไตล์ที่ได้ยินบ่อยๆ และมักเอามาใช้สลับกับสไตล์บ้านแนวอังกฤษ แม้ว่าทั้งสองสไตล์จะคล้ายกัน แต่ไอเดียของสไตล์วินเทจนั้นก็คือ การนำกลิ่นอายและแฟชั่นในยุคก่อนมาประยุกต์ตกแต่งกับบ้าน ไม่ได้ยึดติดกับความวิจิตรอ่อนช้อย
สไตล์แบบ English Cottage (อิงลิชคอทเทจ) ก็คือสไตล์บ้านแบบอังกฤษที่เรามักได้ยินกัน พบเจอได้ตามบ้านตากอากาศแถบเขาใหญ่ ซึ่ง English Cottage เกิดจากแนวทางตกแต่งแนวพระราชวังอังกฤษที่ปรับมาเป็นบ้านอยู่อาศัย เป็นบ้านผู้ดีอังกฤษในอดีต
โดยมีรูปแบบการตกแต่งที่เน้นความวิจิตรผสมผสานกับความอบอุ่นของบ้าน เช่น การนำเก้าอี้บุผ้าลายดอกไม้วางคู่กับพรมลายสวยงามโบราณมีเตาพิงประดับ ประกอบกับผนังวอลเปเปอร์ลายเถาวัลย์ที่มีกรอบรูปกรอบหลุยส์ติดอยู่บนนั้นนั่นเอง
เลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านมาแต่งบ้านให้น่าอยู่ตามสไตล์ที่ใช่ -> เฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้าน
Post a Comment