การนอนเป็นสิ่งสำคัญของชีวิตคนเรา ถ้าได้นอนอย่างมีคุณภาพและเพียงพอชีวิตในวันนั้นของเราก็จะดีสดชื่นมีแรงทำสิ่งต่าง ๆ มากมาย ดังนั้นการเลือกที่นอนและเตียงนอนจึงเป็นอีกเรื่องที่สำคัญของชีวิต เราจึงได้นำปัจจัยในการเลือกเตียงมาให้ได้อ่านกันไปชมกันเลยครับ

ขนาดเตียงเป็นสิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึง ทั้งในเรื่องการใช้งาน การตกแต่ง ขนาดของห้อง นั้นมีส่วนทั้งหมด การเลือกขนาดจึงเป็นเรื่องสำคัญอันดับแรก ซึ่งขนาดเตียงมาตรฐาน 3 ขนาดดังนี้

• Twin Size หรือ Single Size (เตียง 3.5 ฟุต) - โดยเฉลี่ยขนาดโดยประมาณจะอยู่ที่ กว้าง 3.5 ฟุต ยาว 6.5 ฟุต เป็นเตียงนอนคนเดียวขนาดเล็กเหมาะกับห้องนอนเล็ก ๆ พื้นที่ไม่เยอะ ผู้นอนตัวเล็กตัวไม่ใหญ่ไม่งั้นจะอึดอัด นอนดิ้นไม่ได้เสี่ยงต่อการตกเตียง

• Queen Size (เตียง 5 ฟุต) - โดยเฉลี่ยขนาดโดยประมาณจะอยู่ที่ กว้าง 5 ฟุต ยาว 6.5 ฟุต เตียงขนาดกลางที่นอนได้ 1-2 คน นิยมใช้ตามโรงแรมหรือคอนโดที่เป็นห้องพักที่เข้าพักคู่ เหมาะกับห้องขนาดกลางที่มีเนื้อที่จำกัดแต่ยังพอมีพื้นที่ ผู้นอนตัวใหญ่ก็นอนคนเดียวได้ หรือ คนที่ดิ้นก็นอนได้ แต่ถ้านอน 2 คนแล้วผู้นอนตัวใหญ่อาจจะอึดอัดได้

• King Size (เตียง 6 ฟุต) - โดยเฉลี่ยขนาดโดยประมาณจะอยู่ที่ กว้าง 6 ฟุต ยาว 6.5 ฟุต เตียงที่ใหญ่ที่สุดในขนาดมาตรฐาน เป็นเตียงที่ใช้พื้นที่เยอะที่สุดเหมาะสำหรับห้องขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่มาก ๆ ไม่งั้นห้องจะดูอึดอัด เหมาะสำหรับนอน 2 คนเป็นอย่างมากไม่มีปัญหาเรื่องเป็นคนดิ้นหรือตัวใหญ่เพราะเป็นเตียงขนาดใหญ่ แต่นอนคนเดียวอาจจะเหงานิดหน่อย เพราะขนาดเตียงที่ใหญ่

ขนาดเตียงนอกจากนี้ก็จะมีขนาดต่าง ๆ ดังนี้ America King จะมีขนาด กว้าง 6.5 ฟุต ยาว 6.5 ฟุต California King จะมีขนาด กว้าง 7 ฟุต X ยาว 6.5 ฟุต บางที่ California King ก็มีขนาด กว้าง 7 ฟุต X ยาว 7 ฟุต เป็นต้น

ประเภทของเตียงแบ่งไปตามวัสดุของเตียง รูปลักษณ์ของเตียง ซึ่งส่งผลต่อความคงทนของเตียง ความสวยของเตียงที่แตกต่างกันไปในแต่ละประเภท

• เตียงแบบมีลิ้นชัก - เตียงที่มีลิ้นชักเก็บของในเตียง ช่วยประหยัดพื้นที่เหมือนรวมตู้เข้ากับเตียง

• เตียงแบบสองชั้น - เหมาะแก่การใช้งานกับห้องที่มีพื้นที่จำกัดโดยใช้พื้นที่น้อยแต่นอนได้ 2 คน

• เตียงกระดูกงู - เป็นเตียงที่มีความทนทานแข็งแรงน้อยที่สุด แต่จะทำให้ที่นอนนุ่มขึ้นเยอะมาก ใช้งานไปนานจะมีโอกาสยสบและยุบได้ เหมาะกับที่นอนยางพาราไม่เหมาะกับที่นอนสปริงเพราะสปริงจะปริ้นแล้วที่นอนจะพังง่ายและนอนไม่สบายตัว

• เตียงฐานรองสปริง - โครงสร้างเป็นสปริงที่นอนแบบที่นอนแต่สปริงจะแข็งและใหญ่กว่าที่นอน 3-4 เท่า แข็งแรงกว่าเตียงกระดูกงู คุณภาพที่นอนและความรู้สึกที่นอนจะเหมือนเดิม แต่ก็มียืดหยุ่นอยู่บ้างเพราะฐานรองเป็นตัวสปริง นอนลงไปนุ่มขึ้นแต่ในระยะยาวจะมีปัญหาเรื่องการเสื่อมตัวของสปริงทำให้เตียงไม่เท่ากัน

• เตียงฐานรองไม้ - เป็นฐานไม้แข็ง ๆ ไม่ยืดหยุ่น ความรู้สึกเวลานอนลงไปบนที่นอนจะเป็นความรู้สึกของที่นอนโดยตรง ปัญหาน้อยแข็งแรง เป็นประเภทที่นิยมมากที่สุด

ประเภทของที่นอนประเภทต่าง ๆ ก็เหมาะสมกับเตียงประเภทที่แตกต่างกัน ถ้านำที่นอนสปริงไปใช้กับเตียงสปริงก็อาจจะยวบจนเกินไปดังนั้นการเลือกที่นอนให้สัมพันธ์กับเตียงก็มีส่วนช่วยให้นอนสบายอีกด้วย โดยจะแบ่งประเภทดังนี้

• ที่นอนยางพารา - ที่นอนจากวัสดุธรรมชาติอย่างยางพารา คงทน มีความนุ่ม ยืดหยุ่นได้ดี หนัก ราคาค่อนข้างสูงกว่าที่นอนวัสดุธรรมชาติแบบอื่น จะมี 2 รูปแบบคือ ที่นอนยางพาราแท้ กับ ที่นอนยางพาราแบบอัดแน่น

1.1 ที่นอนยางพาราแท้ - เป็นยางแท้ล้วน ๆ นุ่มละเอียด ยืดหยุ่นมาก ทนทาน คงรูปได้ดี ดูแลรักษาง่าย รองรับน้ำหนักมาก ๆ ได้ เหมาะกับสรีระคนเป็นอย่างดี ลดแรงจากการขยับตัวได้ดี ไม่ชื้นไม่มีฝุ่นเกาะ ไม่มีสารที่ทำให้เป็นภูมิแพ้ มีราคาที่สูงมาก มีกลิ่นยางแรงในช่วงแรก หนัก

1.2 ที่นอนยางพาราแบบอัดแน่น - เป็นยางสังเคราะห์มาอัดรวมกับ แข็งกว่ายางพาราแท้ รับน้ำหนักมาก ๆ ได้ ไม่ยุบง่าย ลดแรงจากการขยับตัวได้ดี ทนทานแข็งแรง ถูกกว่ายางพาราแท้ ใช้ไปนาน ๆ อาจจะมีกลิ่นเหม็นอับของยาง น้ำหนักมากกว่ายางพาราแท้

• ที่นอนนุ่น - ที่นอนจากวัสดุธรรมชาติจากต้นนุ่น นิยมทำเป็นที่นอนขนาดเล็กใช้กับเตียงเดี่ยว หุ้มด้วยผ้า 2 แบบคือ ผ้าย่นหนังไก่ และ ผ้าไหมญี่ปุ่น ปัจจุบันไม่ค่อยได้รับความนิยม น้ำหนักเบา นอนแล้วเย็น ราคาค่อนข้างถูก ไรฝุ่นน้อย มีความยืดหยุ่นน้อย ยุบยวบง่าย สะสมฝุ่นง่าย ตรวจสอบยากว่าเป็นนุ่นแท้ 100% ไหม อายุการใช้งานสั้น

• ที่นอนใยมะพร้าว - ที่นอนจากวัสดุธรรมชาติจากการนำเส้นใยมะพร้าวมาแปรรูปเป็นแผ่นแล้วอัด เป็นที่นอนที่แข็งความยืดหยุ่นน้อย คงรูปได้ดี น้ำหนักค่อนข้างเบา ช่วยลดปัญหาการปวดหลัง จากการนอนบนที่นอนนิ่ม ๆ ยวบ ๆ ย่อยสลายตามธรรมชาติได้ดี หมดอายุการใช้งานจะเปื่อยยุ่ย

• ที่นอนสปริง - เป็นการผสมผสานระหว่างวัสดุธรรมชาติกับวัสดุสังเคราะห์ มีเทคโนโลยีที่ดีในการกระจายน้ำหนัก เป็นที่นิยมมากที่สุด ยืดหยุ่นคืนตัวได้ดี สามารถกระจายน้ำหนักของร่างกาย ไม่ให้เกิดแรงกดทับของสรีระส่วนใดส่วนหนึ่งมากเกินไป ระบายอากาศได้ดี ให้ความรู้สึกที่เย็นสบายกว่าที่นอนแบบฟองน้ำ และ ยางพารา ทนทานใช้งานได้นาน มีราคาหลากหลาย เมื่อสปริงเสื่อมตัวอาจจะมีปัญหาเรื่องเสียงและการยวบ โดยที่นอนสปริงมีประเภทย่อยดังนี้

5.1 ที่นอนบอนแนลล์สปริง - สปริงแบบดั้งเดิม เป็นการยึดสปริงแต่ละลูกเข้าไปในแผ่นของที่นอน ความทนทานต่ำ มีโอกาสทำขดลวดของสปริงล้มทำให้รูปทรงของที่นอนผิดรูป และยังมีโอกาสก่อให้เกิดการเสียดสีกันระหว่างสปริง ทำให้เกิดเสียงดังขึ้น แต่จะมีราคาที่ถูกกว่าแบบอื่น ๆ

5.2 ที่นอนออฟเซตสปริง - สปริงแบบขมวดปมถึงกัน แข็งกระด้าง ความยืดหยุ่นต่ำ เวลานอนจะกระด้างเวลาขยับตัวจะรู้สึกถึงคนอื่นที่นอนด้วย

5.3 ที่นอนพ็อกเก็ตสปริง - สปริงแบบแยกออกจากกัน สปริงหลาย ๆ ตัวเรียงกันเป็นแถว สปริงจะไม่เสียดสีกัน ไม่รบกวนคนที่นอนด้วย สามารถรองรับกับสรีระของร่างกายได้เป็นอย่างดี ราคาสูงกว่าแบบอื่น

ความหนาของที่นอนเป็นตัวบ่งชี้คุณภาพของที่นอนยิ่งหนายิ่งมีคุณภาพที่ดี และราคาก็สูงตามความหนา ซึ่งความหนาที่นิยมที่พบได้ทั่วไปคือประมาณ 6-12 นิ้ว การเลือกความหนาตามประเภทที่นอนจะเป็นดังนี้

• เตียงที่มีพนักพิงที่หัวนอน - สามารถพิงหลังได้แบบโซฟา ควรเลือกใช้ที่นอนที่ไม่หนามากจนเกินไป เพื่อให้ระดับความสูงของศรีษะเวลาที่นั่งหลังพิงพนักอยู่ในระดับที่พอดี

• ที่นอนแบบสปริง - ควรจะเลือกที่มีความหนามาก ๆ เพราะโดยส่วนใหญ่แล้ว ที่นอนแบบสปริงที่มีความหนากว่า มักจะใช้วัสดุของสปริงที่มีคุณภาพสูงกว่า สามารถยืดหยุ่น ให้ตัว และ รองรับน้ำหนักได้ดีกว่า

• ที่นอนยางพาราแท้ - อาจจะไม่จำเป็นต้องเน้นเรื่องความหนามากนัก เพราะเป็นที่นอนที่ใช้วัสดุธรรมชาติที่ค่อนข้างมีน้ำหนักและความนุ่ม ยืดหยุ่นในตัวอยู่แล้ว อาจจะเลือกความหนาอยู่ที่ประมาณ 4-8 นิ้ว ยิ่งมีความหนามากขึ้น ก็จะมีความนุ่ม และยืดหยุ่นมากขึ้น แต่ราคาก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย

• ที่นอนที่วางไว้ติดกับพื้น (แบบที่ไม่ใช้เตียง) - ไม่ว่าจะเป็นที่นอนประเภทไหน ควรเลือกใช้ความหนาที่มากหน่อย ซึ่งไม่ควรน้อยกว่า 8 นิ้ว เพื่อช่วยให้การลุกยืนจากที่นอน สามารถทำได้สะดวกมากขึ้น

การเลือกที่นอนให้เข้ากับห้อง เข้ากับเฟอร์นิเจอร์เป็นเรื่องของความสวยงาม มีผลต่ออารมณ์ที่จะทำให้เราอยู่ในห้องแล้วรู้สึกสบาย ดังนั้นการเลือกสไตล์ที่เข้ากัน รูปลักษณ์ที่สบายตาก็ช่วยให้เรารู้สึกสบาย

เป็นอย่างไรกันบ้างกับการเลือกเตียงและที่นอนที่ผมนำมาแนะนำ ส่วนใครที่ต้องการหาเตียงและที่นอนในราคาที่คุ้มค่าก็พลาดไม่ได้กับงาน Thailand Furniture & Houseware Fair ในวันที่ 25 กรกฎาคม 2563 - 2 สิงหาคม 2563 เวลา 11.00 - 21.00 น. ณ EH 103-104 Bitec บางนา ในงานจะได้พบกับ เฟอร์นิเจอร์และสินค้าตกแต่งบ้าน จากโรงงานผู้ผลิต บริษัทฯ รับตกแต่งภายใน เฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน เฟอร์นิเจอร์เอ้าท์ดอร์ ชุดห้องครัว ชุดห้องนอน ในราคาพิเศษสุด

ชุตินันท์ หงษ์ทอง, Author

Post a Comment