เข้าสู่กลางปี 2020 แล้วทั้งที เชื่อเหลือเกินว่าไม่มีใครหรอกที่ไม่รู้ว่าสี Pantone ประจำปีนี้เป็นสี Classic Blue สีน้ำเงินสุดคลาสสิกที่เห็นแล้วชวนให้นึกถึงท้องฟ้ายามค่ำคืน ที่นอกจากจะทำให้รู้สึกสงบ มั่นใจ และผ่อนคลายขึ้นแล้ว ในอีกแง่หนึ่งสีฟ้าคลาสสิกนี้ยังหมายถึงรากฐานที่มั่นคงทางอารมณ์และความรู้สึกของคุณประจำปี 2020 นี้ด้วย
แต่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถจับคู่สีมาตกแต่ง ออกไอเดียได้อย่างจัดเต็มกันทุกคน เพราะสำหรับมือใหม่หัดแต่งบ้านบางคน นอกจากจับคู่สีคลาสสิกบลู กับสีขาวเข้าด้วยกันแล้ว ก็ไม่กล้าจับสีนี้เข้าคู่กับสีไหนอีกเลยเพราะกลัวว่ามันจะไม่เข้ากัน ใครที่กังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่ เราขอบอกเลยว่าบทความนี้คือคำตอบ!
อย่างที่เราได้กล่าวไปก่อนหน้านี้ว่าสีขาวกับสีคลาสสิกบลูนั้นเป็นอะไรที่เข้ากันมาก โดยซู วาดเดน (Sue Wadden) ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดของ Sherwin-Williams บริษัทผลิตและจำหน่ายสีระดับโลกจากอเมริกา ได้เลือกให้สีขาวเป็นสีที่เหมาะกับสีคลาสสิกบลูมากที่สุด โดยเธอกล่าวว่า ห้องสีขาวสะอาดตาตัดกับผนังหรือเฟอร์นิเจอร์บิ้วอินสีน้ำเงินคลาสสิกเป็นอะไรที่เข้ากันมาก แถมยังทำให้ดูสดชื่นมากขึ้นอีกด้วย งานนี้ใครที่ไม่รู้จะแต่งสีฟ้าให้เข้ากับสีอะไรดี สีขาวนี่แหละโดนสุด !
การจับคู่สีคลาสสิกบลูกับสีที่อ่อนลงมา เช่น สีชมพูพาสเทล หรือ สีขาวครีม เป็นอีกหนึ่งเฉดสีที่แอนนี่ สโลน (Annie Sloan) ได้แนะนำ เนื่องจากเฉดสีเหล่านี้ช่วยให้บรรยากาศในห้องดูผ่อนคลายและเบาลง ไม่จัดจ้านมากเกินไปเหมือนการใช้สีคลาสสิกบลูสีเดียว
ไม่น่าเชื่อจริง ๆ ว่าสีจี๊ดจ๊าดอย่างสีส้มนั้นจะไปด้วยกันได้ดีกับสีคลาสสิกบลู แต่เชื่อเถอะว่ามันเป็นไปแล้ว และการแต่งบ้านด้วยคู่สีนี้ยังทำให้บ้านดูสดใสมากขึ้นอีกด้วย โดยผู้เชี่ยวชาญด้านสีจาก Chalk Paint อย่างแอนนี่ สโลน (Annie Sloan) ได้อธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า “โทนสีที่ช่วยเสริมสีฟ้าได้เป็นอย่างดีคือ สีเหลือง” ซึ่งสีส้มก็มีความละม้ายคล้ายคลึงและจัดอยู่ในกลุ่มสีโทนร้อน แต่มีสีสันที่สดใส จี๊ดจ๊าดกว่า นั่นจึงทำให้สีส้มเป็นเฉดสีที่เหมาะจะจับคู่กับสีฟ้ามากที่สุดนั่นเอง
สำหรับโทนสีนี้เราขอบอกเลยว่าตอบโจทย์คนที่ต้องการให้บ้านสดใสควบคู่ไปกับความทันสมัยสุด ๆ โดยซู วาดเดน (Sue Wadden) ได้แนะนำให้จับคู่สีคลาสสิกบลูเข้ากับสีเหลืองและสีทอง เนื่องจากสีเหลืองช่วยให้ห้องสว่างไสว สนุกสนาน ในขณะที่สีทองจะช่วยให้ห้องดูมีรสนิยม มีระดับมากยิ่งขึ้น
ใครว่ามีโทนสีคล้ายกันในการแต่งบ้านทำไม่ได้ เรื่องนี้ไม่จริงเสมอไป โดย เอริกา วอลเฟล (Erika Woelfel) ผู้เชี่ยวชาญเรื่องสีจาก Behr ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่าสามารถทำได้ แต่ให้เน้นไปที่การผสมกันหลาย ๆ เฉดตามสไตล์โมโนโทนแทน เคล็ดลับง่าย ๆ ให้เน้นสีคลาสสิกบลูเป็นหลัก แล้วใช้สีฟ้าที่สว่างขึ้นเป็นตัวเสริม เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้ห้องสวยงาม แถมยังมีความหลากหลายให้กับบ้านอีกด้วย
หากสีฟ้าคือสีของน้ำทะเลที่ชวนผ่อนคลาย สีเขียวก็คือตัวแทนของป่าไม้ที่ชวนให้เกิดความสบายตาด้วยเช่นกัน เมื่อนำทั้งสองเฉดสีมารวมกันก็จะทำให้เกิดความเป็นธรรมชาติ สบายตามากยิ่งขึ้น ฉะนั้นซู วาดเดน (Sue Wadden) จึงแนะนำให้สีเขียวเป็นอีกหนึ่งสีที่เหมาะจะจับคู่กับสีคลาสสิกบลู โดยสีเขียวอ่อนจะช่วยให้ความรู้สึกสดชื่น ผ่อนคลาย ในขณะที่สีเขียวเข้มจะช่วยให้ความรู้สึกตื่นเต้น เร้าใจ หรือถ้าหากใครอยากจะลองผสมสีเขียวหลายเฉดเข้าด้วยกันก็น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
เอริกา วอลเฟล (Erika Woelfel) ผู้เชี่ยวชาญเรื่องสีจาก Behr จากบริษัทสีชั้นนำของอเมริกา ได้ให้คำแนะนำสำหรับคนที่ต้องการสร้างความแตกต่างให้กับห้อง อาจลองจับคู่สีคลาสสิกบลูเข้ากับสีโทนกลางที่เป็นธรรมชาติอย่างสีส้มอิฐ สีน้ำตาลอิฐ หรือสีดินเผา เพียงแค่นี้ก็จะช่วยให้ห้องดูแปลกตาและน่าประหลาดใจได้ไม่น้อยเลย
อเดไลน์ ครีเกอร์ (Adeline Krieger) ผู้ช่วยผู้จัดการตราสินค้าของ Rust-Oleum แบรนด์สีทาบ้านชื่อดัง ได้แนะนำว่า สีเหลืองนั้นเป็นโทนสีที่เหมาะจะนำมาจับคู่กับสีคลาสสิกบลูอย่างมาก เนื่องจากช่วยให้รู้สึกอบอุ่นและเป็นกันเอง
สำหรับสีนี้ฟังดูแล้วอาจเป็นการเข้าคู่ที่ดูจะไปด้วยกันไม่ได้สักเท่าไหร่ แต่เชื่อเถอะว่ามันอยู่ด้วยกันแล้วดีจริง ๆ ฮันนาห์ ยอ (Hannah Yeo) ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาและการตลาดของ Benjamin Moore บริษัทสีชั้นนำจากอเมริกา แนะนำว่าให้จับคู่สีคลาสสิกบลูเข้ากับสีเทาหรือสีเทาอ่อน เพราะช่วยเพิ่มความโมเดิร์นและเฉิดฉายให้กับบ้านได้อย่างดี
และนี่ก็คือสาระดี ๆ ที่เรานำมาฝากทุกคนในวันนี้ งานนี้เราเชื่อเหลือเกินว่าหลังจากที่อ่านบทความ 9 ไอเดียแต่งบ้านด้วยสี Pantone สุดฮิต ปี 2020 จบ คุณคงจะอยาก ตกแต่งภายในบ้าน หรือแต่งห้องนอนของคุณกันเพิ่มมากขึ้น
Post a Comment