‘ชั้นวางของ’ ถือเป็นเฟอร์นิเจอร์สำคัญชิ้นหนึ่งที่ทุกบ้านต้องมี ซึ่งส่วนมากจะถูกนำมาใช้เป็นที่จัดเก็บของให้เป็นระเบียบ หรือเป็นที่ตั้งโชว์รูปหรือของสะสมต่าง ๆ นอกจากนี้ ยังจัดว่าเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ตกแต่งบ้านได้อีกด้วย สำหรับชั้นวางของในส่วนที่สำคัญที่สุดของบ้านนั้นก็คือ ชั้นวางในห้องรับแขก เพราะถือเป็นห้องสำคัญของบ้านในการต้อนรับแขกไปใครมา ก็ต้องเข้ามาใช้ห้องนี้เป็นหลักอย่างแน่นอน ฉะนั้น เราจึงไม่สามารถเลือกเพียงแค่ประโยชน์ใช้สอยในการจัดเก็บของอย่างเดียว แต่ยังต้องคำนึงถึงดีไซน์และขนาดที่เหมาะสมกับห้องด้วย

เนื่องจากในปัจจุบันชั้นวางของในห้องรับแขกมีมากมายหลายแบบและหลายขนาด ในวันนี้เรามีข้อมูลในการเลือกชั้นวางของในห้องรับแขก อย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นการเลือกรูปแบบ, วัสดุ และขนาด อยากรู้แล้วใช่ไหมคะ ว่าเราควรคำนึงถึงอะไรก่อนการเลือกซื้อบ้าง เราไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ

การเลือกชั้นวางของในห้องรับแขกที่ดีนั้น มีข้อต้องคำนึงถึง 3 ประการหลัก ๆ นั่นก็คือ เรื่องของประเภท, วัสดุ และขนาด ชั้นวางของประเภทตู้ลิ้นชัก (Sideboard) เป็นการผสมผสานกันระหว่างชั้นวางของ ตู้และลิ้นชัก ส่วนใหญ่แล้วจะมีความสูงอยู่ระหว่างระดับเอวกับหัวไหล่ เราสามารถใช้ชั้นวางเป็นของตกแต่งภายในห้องได้โดยเลือกดีไซน์ที่สวยงาม และสามารถใช้เป็นที่เก็บของจุกจิกในบ้านให้เป็นระเบียบได้ เหมาะสำหรับนำมาใช้ในห้องรับแขกเนื่องจากทำให้ห้องดูไม่รกตา เพราะของทุกอย่างสามารถเก็บเข้าลิ้นชักได้หมด นอกจากนี้ ยังสามารถโชว์ของตกแต่งได้ด้วย หากเลือกชั้นวางแบบที่มีส่วนเปิดโล่งบางส่วน ไอเทมที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับห้องรับแขกก็คือทีวี เพราะนอกจากห้องรับแขกจะเอาไว้ต้อนรับแขกไปใครมาแล้ว ยังนิยมใช้เป็นห้องนั่งเล่นของทุกคนในบ้านอีกด้วย ดังนั้น ชั้นวางของในห้องรับแขกจำนวนมากจึงออกแบบมาให้สามารถวางทีวีและอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ได้เช่น ช่องเก็บปลั๊ก, สายไฟ, ช่องเก็บเครื่องเล่น DVD หรือที่วางเครื่องเสียง เป็นต้น ซึ่งการใช้ชั้นวางประเภทนี้จะช่วยให้ห้องรับแขกของเราดูไม่รกและเป็นระเบียบมากยิ่งขึ้น และแน่นอนว่า ถ้าเลือกชั้นวางที่มีดีไซน์ที่สวยงามเหมาะสมกับทีวีแล้ว ก็จะยิ่งทำให้ห้องดูหรูหราและน่านั่งพักผ่อนขึ้นไปอีกเยอะเลยค่ะ หากบ้านไหนเป็นผู้ที่ชื่นชอบการเก็บของสะสมของแต่งบ้านแล้วล่ะก็ ขอแนะนำให้เลือกชั้นวางแบบตู้โชว์ที่ส่วนใหญ่มักจะออกแบบมาให้มีกระจกใสด้านหน้าหรือรอบตู้เลยก็มี เพราะนอกจากจะช่วยเก็บของสะสมของเราให้เป็นระเบียบเรียบร้อยแล้ว เมื่อตั้งไว้ในห้องรับแขก ยังทำให้กลายเป็นการตกแต่งบ้านที่มีสไตล์ไปอีกด้วย และทั้งคุณและแขกที่มาเยี่ยมก็สามารถชื่นชมของสะสมเพลิน ๆ ได้เลยค่ะ การวางชั้นวางแบบเปิดโล่งหรือเป็นหิ้งที่ตั้งให้แนบติดกับผนังไม่เพียงแค่ให้ความรู้สึกที่เก๋ไก๋ทันสมัยแล้ว แต่ยังเป็นชั้นวางที่จัดเก็บของได้เยอะและมีประสิทธิภาพมากด้วยเช่นกัน เพราะทำให้เราสามารถแบ่งสัดส่วนในการเก็บของได้หลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ของใช้, หนังสือ และของตกแต่งบ้านต่าง ๆ และเนื่องจากชั้นวางประเภทนี้จะไม่มีกระจก ประตูหรือฝาปิดใด ๆ จึงสะดวกต่อการใช้งาน เพราะสามารถหยิบใช้ของได้ง่าย แต่อาจต้องระวังในเรื่องของฝุ่นเข้าง่าย วัสดุของชั้นวางของทั่วไปในปัจจุบันมีหลากหลายมาก แต่ในวันนี้เราขอแนะนำวัสดุประเภทไม้หลัก ๆ 4 ประเภทให้อ่านกัน นั่นก็คือ ไม้เนื้อแข็ง, ไม้วีเนียร์, ไม้อัด และไม้ MDF ไปดูกันเลยค่ะว่า ไม้แต่ละชนิดมีความแตกต่างกันอย่างไร เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าไม้เนื้อแข็งนิยมนำมาทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ในบ้าน เนื่องจากคุณสมบัติที่แข็งแรงและคงทนยาวนาน สามารถนำมาใช้กับงานภายนอกที่ต้องตากแดดและโดนฝนได้ดี นอกจากนี้ ยังให้ความรู้สึกที่อบอุ่นเป็นธรรมชาติ พร้อมด้วยความสวยงามของสีและลวดลายของเนื้อไม้ธรรมชาติ แต่อย่างที่ทราบกันดีว่า ไม้จริงจะมีราคาสูงและมักตามมาด้วยปัญหาปลวก ฉะนั้น ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าเฟอร์นิเจอร์ชิ้นนั้นผ่านกระบวนการอาบน้ำยาและอบแห้งมาแล้ว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันปลวกและแมลงต่าง ๆ ค่ะ ไม้วีเนียร์ ทำจากเยื่อไม้แผ่นบาง ๆ ที่ฝานมาจากท่อนซุง แล้วนำมาอบ อัดต่อกันเป็นแผ่น ซึ่งจะมีลักษณะที่สวยงามไม่ต่างจากไม้จริงเลย นิยมนำไปใช้ติดผิวบนวัสดุจำพวกไม้อัด เพื่อให้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติเหมือนไม้จริงมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญ สามารถนำมาออกแบบได้หลากหลาย เฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้วีเนียร์จึงเข้ากันกับงานออกแบบได้หลากหลายสไตล์ นอกจากนี้ ยังมีน้ำหนักที่เบาและราคาถูกกว่าไม้เนื้อแข็ง แต่จะมีข้อเสียตรงที่ไม่ทนทานต่อน้ำ ความชื้นและรอยขีดข่วนได้ ไม้อัด เป็นไม้ที่ทำมาจากขี้เลื่อย และนำมาผ่านกรรมวิธีทางเคมี ผสมกาว อัดบดเป็นแผ่น มักปิดทับด้วยกระดาษพิมพ์ลายไม้เพื่อความสวยงาม และเคลือบเมลามีนเพื่อให้มีประสิทธิภาพที่ทนความชื้นได้มากขึ้น ไม้อัดเป็นที่นิยมมากในการนำมาทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ เนื่องจากมีราคาต้นทุนที่ต่ำและมีน้ำหนักเบา จึงมีราคาถูกและหาซื้อได้ง่าย แต่วัสดุประเภทไม้อัดนั้นจะไม่สามารถพ่นสีบนงานได้ และไม่แข็งแรงเท่ากับไม้ประเภทอื่น ๆ ซึ่งถ้าหากโดนน้ำจนผิวที่เคลือบหลุด ก็จะทำให้เฟอร์นิเจอร์เปื่อยยุ่ยและเกิดเชื้อราตามมาได้ ไม้ MDF ย่อมาจาก “Medium-Density Fiberboard” หรือก็คือ แผ่นใยไม้อัดความหนาแน่นปานกลาง ซึ่งไม้ชนิดนี้จะมีความคล้ายกับไม้อัดตรงที่ทำมาจากขี้เลื่อยเหมือนกัน แต่แตกต่างกันตรงที่ ไม้ MDF จะใช้เครื่องบดอัดไม้แบบเฉพาะที่มีแรงอัดสูงมากกว่า จึงทำให้เนื้อไม้มีความแน่นและละเอียดกว่าไม้อัด รองรับน้ำหนักได้ดีและกันน้ำได้ระดับหนึ่ง แต่มีข้อเสียเหมือนกับไม้อัดตรงที่ไม่สามารถพ่นสีได้ ชั้นวางของสำหรับห้องรับแขกมีมากมายหลายขนาดให้คุณเลือก ซึ่งเป็นสิ่งที่มีผลต่อการใช้งานและการตกแต่งห้องด้วย วันนี้เราจึงมีเคล็ดลับในการเลือกขนาดที่เหมาะสมกับห้องรับแขกในแบบต่าง ๆ มาฝากกัน ไปดูกันเลยค่ะ! สำหรับใครที่ต้องการเลือกซื้อ TV Sideboard มาใช้ อย่างแรกเลย ต้องคำนึงถึงขนาดทีวีก่อน เพื่อให้สามารถวางทีวีได้อย่างสมดุล มั่นคงในการใช้งาน และเพื่อความสวยงาม ควรเลือกชั้นวางที่ขนาดเหมาะสมกับขนาดของทีวีหรือใหญ่กว่าทีวีเล็กน้อย เผื่อไว้สำหรับอนาคต หากคุณต้องการซื้อเครื่องใหม่ที่จอใหญ่ขึ้น แต่ก็ไม่ควรเลือกชั้นวางที่ใหญ่จนเกินไป เพราะจะทำให้เปลืองเนื้อที่ใช้สอยในห้อง ก่อนการเลือกซื้อชั้นวางของสำหรับห้องรับแขก จะต้องคำนึงถึงจำนวนเฟอร์นิเจอร์อื่น ๆ ที่มีอยู่และพื้นที่ใช้สอยที่เหลือ หากในห้องรับแขกของคุณเต็มไปด้วยเฟอร์นิเจอร์อื่นอยู่แล้วอย่างเช่น ชุดโต๊ะรับแขก โซฟา หรือโต๊ะวางของอื่น ๆ ก็ควรเลือกชั้นวางที่มีขนาดเล็ก เพราะชั้นขนาดใหญ่ จะทำให้ห้องของเรายิ่งดูแคบและไม่เป็นระเบียบค่ะ สำหรับใครที่มีห้องรับของขนาดเล็ก เรามีเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการเลือกขนาดมาฝากค่ะ นั่นก็คือ การเลือกชั้นวางทรงเตี้ย ซึ่งจะมีลักษณะที่เป็นชั้นเดียวหรือ 2 ชั้น เนื่องจากชั้นวางแบบทรงเตี้ยจะช่วยทำให้เพดานห้องดูสูงขึ้น และขนาดจะไม่อยู่ในระดับสายตา ทำให้ผู้ที่เข้ามาในห้องรู้สึกว่าห้องกว้างกว่าปกติค่ะ เพื่อให้ห้องดูเป็นระเบียบและไม่รกตา เราควรจัดวางชั้นให้อยู่ในตำแหน่งที่แนบติดกับผนังและเข้ามุม นอกจากนี้แล้ว การวางติดผนังยังช่วยลดอุบัติเหตุในการที่ชั้นจะล้มลงมาด้วยค่ะ ยิ่งถ้าหากบ้านไหนมีเด็กเล็ก ๆ ยิ่งไม่ควรตั้งชั้นไว้กลางบ้านเลย เพราะมีโอกาสที่เด็ก ๆ อาจจะวิ่งชนจนเกิดการบาดเจ็บได้ ไม่ว่าพื้นที่ห้องของเราจะมีขนาดใหญ่แค่ไหน ก็ต้องอย่าลืมตรวจสอบขนาดของประตูด้วยนะคะ ว่าสามารถนำชั้นวางของขนาดใหญ่เข้าไปได้หรือไม่ หรือเพื่อป้องกันที่จะเกิดปัญหาเหล่านี้ คุณสามารถเลือกชั้นวางของที่ถอดประกอบได้ ซึ่งนอกจากจะสะดวกในการขนย้ายแล้ว ยังประหยัดเนื้อที่จัดเก็บหากเราไม่ต้องการใช้งานอีกด้วย ตอนนี้หลายคนคงอยากหาชั้นมาวางของในห้องรับแขกดี ๆ สักอันแล้วใช่ไหมล่ะคะ วันนี้เราได้คัดสรรสินค้าที่น่าสนใจมาฝากกันมากมายไว้ที่นี่แล้ว ใครถูกใจรุ่นไหน ก็คลิกซื้อให้มาส่งที่บ้านได้ตามสบายเลยค่ะ เป็นอย่างไรกันบ้างคะ มาถึงตรงนี้แล้ว เพื่อน ๆ คงจะมีไอเดียและชั้นวางของในใจเพื่อจัดเก็บห้องรับแขกให้เป็นระเบียบและน่ามองเพิ่มมากขึ้นแล้วใช่ไหมคะ เนื่องจากห้องรับแขกเป็นเหมือนหน้าตาของเจ้าของบ้าน เราจึงต้องใส่ใจความเป็นระเบียบและความสะอาดมากเป็นพิเศษ เราจึงต้องหมั่นปัดฝุ่นและจัดแยกประเภทของที่อยู่ในชั้นวางอยู่เสมอ และนอกจากวัสดุและประโยชน์ใช้สอยแล้ว เพื่อน ๆ อาจจะลองเลือกดีไซน์ที่เข้ากับสไตล์ของห้อง หรือสีที่เข้ากับเฟอร์นิเจอร์อื่น ๆ และถ้าหากใครเบื่อเฟอร์นิเจอร์สีพื้น ๆ อาจจะลองเลือกแบบที่มีลวดลายเพิ่มเข้ามา ให้ชั้นวางของจะได้ทำหน้าที่เป็นของตกแต่งบ้าน และช่วยขับให้ห้องดูโดดเด่นมากขึ้นได้ด้วยค่ะ

ชุตินันท์ หงษ์ทอง, Author

Post a Comment