เลือกยากไม่แพ้เฟอร์นิเจอร์ส่วนอื่นๆ สำหรับชั้นวางทีวี เพราะมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบเต็มไปหมด แบบนั้นก็สวยแบบนี้ก็ดูดี แต่เราจะดูแค่นั้นไม่ได้ต้องดูปัจจัยอื่นๆ ประกอบด้วย เพราะชั้นวางทีวีจะอยู่กับเราไปอีกนาน ดังนั้นต้องเลือกให้ดีที่สุด

อยากได้ชั้นวางทีวีขนาดเล็กหรือใหญ่นั้น ส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับขนาดของห้องด้วย จึงต้องวัดขนาดให้ดีก่อน รวมถึงควรคำนึงขนาดของโซฟาด้วย เพื่อให้วางแล้วยังมีระยะเดินผ่านได้สะดวก ถ้าพื้นที่ห้องมีขนาดเล็กก็จะต้องเลือกชั้นวางทีวีที่ไม่กว้างมาก ส่วนความยาวแนะนำว่าให้สอดคล้องกับผนัง บางคนจะเลือกยาวเต็มผนังเลยก็ได้ หรือจะลดขนาดลงมาหน่อยให้ได้กึ่งกลางก็แล้วแต่เรา แต่ไม่ควรยาวเกินผนังหรือเล็กจนเกินไป เพราะจะทำให้ห้องดูไม่สมดุล

เชื่อว่าทุกบ้านจะมีแนวทางและสไตล์การแต่งห้องเป็นของตัวเอง ซึ่งการกำหนดธีมจะช่วยให้การเลือกรูปแบบของชั้นวางทีวีแคบลงไปด้วย ทำให้เราเลือกได้ง่ายขึ้น ยกตัวอย่างง่ายๆ สไตล์มินิมอล หรือสไตล์โคซี่ เฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่จะเป็นไม้ ดังนั้นเราจะเน้นชั้นวางทีวีไปที่แบบไม้โดยเฉพาะ ซึ่งอยากได้ไม้เฉดสีเข้มหรือสีอ่อน ก็ขึ้นอยู่กับเราจะตัดสินใจ

ในกรณีที่เลือกวางทีวีมากกว่าวิธีการแขวนผนัง สิ่งสำคัญของชั้นวางทีวีนอกจากความสวยงาม คือความแข็งแรงในการรองรับน้ำหนัก ยิ่งบ้านไหนมีทีวีขนาดใหญ่เกิน 50 นิ้ว ควรสอบถามกับพนักงานให้ชัดเจนว่าสามารถรับน้ำหนักได้เท่าไหร่ รวมถึงใช้วัสดุอะไรในการทำ เพราะถ้าเลือกวัสดุไม่ดี เวลาเราใช้ไปนานๆ ชั้นวางอาจพังลงมาได้ และจะทำให้ทีวีได้รับความเสียหาย ส่วนใครที่แม้จะเลือกทีวีแขวนผนังก็ควรดูเรื่องความทนทานด้วยเช่นเดียวกัน

อันนี้ไม่ต้องมีเหตุผลมากนัก อยู่ที่ความชอบของเราล้วนๆ แต่ก็ต้องดูนิสัยเราด้วยนะ ถ้าอยากเน้นโชว์ของตกแต่งเพื่อเพิ่มความสวยงาม ก็ควรเลือกชั้นวางทีวีแบบเปิดโล่ง หรือเป็นหน้าบานแบบใส แต่ถ้าเราเน้นเก็บของการมีหน้าบานก็จะช่วยปกปิดความรก หรือสิ่งของที่เราไม่อยากโชว์ได้ดีทีเดียว

ขึ้นอยู่กับงบประมาณในกระเป๋าของแต่ละคน ถ้าราคาถูกเกินไปและใช้วัสดุไม่ดีในการทำ สิ่งที่ตามมาคือใช้ไม่นานก็พัง กลายเป็นต้องเสียเงินเพิ่มเพื่อซื้อใหม่ ให้ดูวัสดุเป็นหลักถ้าแพงขึ้นมาหน่อยแต่ใช้ได้ยาวนานก็ดูจะคุ้มค่ากว่า หรือถ้าใครชอบงานสั่งทำหรือบิวท์อินราคาก็จะบวกแพงขึ้นมาอีก เนื่องจากจะได้ชั้นวางทีวีที่ไม่เหมือนใคร