ห้องรับแขก หรือ ห้องนั่งเล่น แทบจะเรียกได้ว่าเป็นหน้าตาของบ้าน เป็นเหมือนหัวใจหลักที่เข้ามาแล้วบอกได้ทันทีเลยว่าบ้านหลังนี้ออกแบบสไตล์ไหน และยังถือเป็นอีกห้องที่ได้ใช้งานบ่อย ๆ เวลาแขกญาติสนิท มิตรสหายมาเยี่ยมเยียน ก็จะมีห้องรับแขกห้องนี้ที่รองรับพวกเขา นอกจากนี้ ยังสามารถใช้เป็นศูนย์กลางของคนในบ้าน ในการทำกิจกรรมร่วมกันได้อีกด้วย เช่น ดูทีวีหรือหนัง เล่นเกม รวมไปถึงการพูดคุยกันเรื่องต่าง ๆ กัน เป็นต้น

เราจะไม่พูดถึงเซนเตอร์ของห้องนั่งเล่นอย่าง ‘โซฟา’ ก็คงไม่ได้ เพราะโซฟาเป็นองค์ประกอบหลักของห้องนั่งเล่นเลยทีเดียว แถมยังเป็นตัวกำหนด Mood & Tone ของห้อง ให้เป็นไปตามสไตล์ที่เราต้องการอีกด้วย พูดกันถึงขนาดนี้ คงจะเห็นแล้วว่าโซฟาสำคัญขนาดไหน วันนี้เลยจะมาบอกการเทคนิคเลือกซื้อโซฟาเบดให้ตอบโจทย์การใช้งาน และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์เรามากที่สุด ควรคำนึงถึงจุดไหนบ้างมาดู!

การวัดขนาดตำแหน่งที่จะวางโซฟา เป็นหนึ่งเรื่องที่เจ้าของบ้านมักจะมองข้ามไป ส่วนใหญ่ใช้การวัดด้วยการกะสายตาเอา ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำมาก ๆ เพราะจะทำให้เราตัดสินใจได้ยาก บางครั้งก็เสียเวลา เพราะฉะนั้น สิ่งที่ควรทำจริง ๆ คือ เลือกจุดวางตำแหน่งโซฟา แล้ววัดความกว้าง ยาว ลึก และทะแยง เพื่อนำไปใช้วัดขนาดของโซฟาจริง ๆ ควรเลือกให้สมดุลกับขนาดห้อง ไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป เวลามองเข้ามาแล้ว ภาพรวมของห้องจะได้สวยงามเหมาะสมที่สุด

สำหรับบ้านที่มีขนาดห้องรับแขกจำกัด เมื่อเลือกพื้นที่วางตำแหน่งโซฟาได้แล้ว ข้อต่อมาที่ควรคำนึงคือ ตำแหน่งของปลั๊กไฟที่ติดผนัง เพราะอาจเกิดปัญหาเมื่อวางโซฟาติดผนังแล้ว กลายเป็นว่าทับตำแหน่งปลั๊กไฟ ไม่สามารถใช้งานปลั๊กได้ เพราะฉะนั้น ควรคำนึงถึงระยะห่างที่จะวางโซฟา ควบคู่ไปกับการพิจารณาขนาดของโซฟาให้ดีว่าควรลดขนาดหรือไม่ ถ้าเอาเขยิบไปข้างหน้าได้ก็อาจจะไม่จำเป็นต้องลด แต่ถ้าขนาดห้องเล็กมาก เขยิบไปคือแน่น ก็ควรเลือกที่จะลดขนาดโซฟาลง เพื่อที่ตัวบ้านจะได้ไม่ดูแออัดเกินไปนั่นเอง

ลืมกันไปแล้วแน่ ๆ กับการเคลื่อนย้ายโซฟาเข้าบ้าน เราไม่ควรลืมวัดขนาดทางและช่องที่จะเคลื่อนย้ายโซฟาเข้ามา โดยแพลนล่วงหน้าก่อนเลยว่า จะนำโซฟาเข้ามาทางไหน เช่น ประตู ทางเดินส่วนไหน ฯลฯ ความกว้าง ยาว สูง เส้นทะแยงเท่าไหร่ เพราะหากลืมคำนึงถึงข้อนี้ เกิดปัญหาใหญ่แน่นอน

การพิจารณาถึงการใช้งานก็มีส่วนสำคัญ เพราะโซฟาแต่ละแบบจะมีรายละเอียดที่เฉพาะตัว สามารถปรับให้เหมาะกับการใช้งานได้แตกต่างกันออกไป ซึ่งแต่ละบ้านก็จะมีจุดประสงค์ในการเลือกใช้ไม่เหมือนกัน เช่น ครอบครัวขนาดใหญ่ ใช้ห้องนั่งเล่นเป็นศูนย์กลางในการใช้เวลากับครอบครัว ก็ควรเลือกโซฟาที่ใหญ่ขึ้นมาอีกนิด หรือใครชอบนอนอ่านหนังสือ ก็อาจจะเลือกโซฟาเบด ที่เป็นทรงตัวแอล เป็นต้น เราเลยยกตัวอย่างโซฟาแต่ละทรงมาให้ดูว่า แบบไหนเหมาะกับการวางแบบใด และการใช้งานแบบไหน ดังนี้

โซฟาหน้าตรง : เป็นทรงคลาสสิคที่นิยมกันมาก เพราะมีความเรียบง่าย ไม่ใหญ่เทอะทะ แถมตกแต่งร่วมกับเฟอร์นิเจอร์อื่นก็สวย จะวางเก้าอี้เพิ่มสองข้างก็เก๋ เหมาะสมกับห้องทุกขนาด ตอบโจทย์การใช้งานได้ดี

โซฟาเข้ามุม : เป็นโซฟาที่มีรูปทรงเป็นตัวแอลเพื่อเข้ามุม เหมาะกับห้องรับแขกขนาดเล็กที่มีพื้นที่มุมห้อง เพราะการวางโซฟาชิดมุมทำให้ประหยัดพื้นที่ไปได้มาก

โซฟารูปตัวแอล : เหมาะกับบ้านที่มีพื้นที่กว้างขวางครอบคลุม วางแล้วจะช่วยให้ห้องดูไม่โล่งจนเกินไป แถมเหมาะกับคนที่ชอบนอนเล่นโซฟา จะอ่านหนังสือ หรือปรับให้เป็นโซฟาเบดสำหรับนอนผ่อนคลายระหว่างวันก็เลิศ ใช้งานได้หลากหลายมาก ๆ

การเลือกวัสดุ นอกจากเลือกความสวยงาม ก็ควรเลือกไปควบคู่กับการใช้งานเช่นกัน โดยวัสดุหุ้มเบาะโซฟานั้น ก็มีหลายประเภท เช่น เบาะหนัง เบาะผ้า เป็นต้น การเลือกวัสดุควรเป็นไปตามการใช้งาน ขอยกตัวอย่าง เคสคนที่แพ้ฝุ่นควรหลีกเลี่ยงวัสดุที่เป็นผ้า เพราะผ้าเป็นจุดที่สะสมฝุ่นได้มาก นั่งทีฝุ่นอาจจะฟุ้งขึ้นมาเยอะกว่าปกติ หรือโซฟาที่ใช้วัสดุแบบหนัง จะเหมาะกับห้องที่มีอากาศเย็นมากกว่าอากาศร้อน เพราะว่ากรณีที่แสงแดดส่องเข้ามา ตัววัสดุหนังจะดูเก่าโทรมได้เร็ว ฉะนั้นการเลือกวัสดุให้ตรงกับการใช้งาน จะสามารถตัดช้อยส์ ทำให้เราตัดสินใจได้ง่ายขึ้นไปได้เยอะเลย

6. สีที่ใช่และสไตล์ที่ชอบ

เป็นอีกข้อที่สำคัญมาก ๆ เพราะโทนสีของโซฟาจะช่วยคุมโทนห้อง ควรเลือกสีให้อยู่ในโทนเดียวกัน แต่มีการไล่ระดับสีที่เฉดต่างกันออกไป เพื่อเพิ่มมิติและความหลากหลาย เช่น บ้านโทนครีม อาจจะเลือกโซฟาโทนน้ำตาลมาตัดกันก็เลิศไปอีกแบบ นอกจากนี้ ควรดูการจัดบ้านของคุณด้วยว่าเป็นไปในสไตล์ไหน ถ้าเน้นความโมเดิร์น ก็ควรเลือกโซฟาที่มีดีไซน์นำสมัย หรือใครแต่งแบบหรูหรา ทองอร่ามทั้งบ้าน โซฟาก็ควรไปในทางเดียวกัน ดังนั้นการเลือกสีสันและสไตล์ของโซฟา จึงเป็นเรื่องที่ควรพิถีพิถันอย่างมาก เพราะเมื่อนำไปวางตกแต่งแล้วเสมือนเป็นหน้าตาของบ้านเลยทีเดียว

การเลือกโซฟา ไม่ได้ตัดสินใจเพียงแค่ความชอบ ถูกใจก็ซื้อเท่านั้น แต่การจะเลือกโซฟาให้สวยเหมาะกับสไตล์บ้าน ตอบโจทย์การใช้งานจริง ๆ เราก็ควรพิจารณามากกว่านั้น คิดถึงหลาย ๆ ปัจจัย เช่น ข้อจำกัดเรื่องสถานที่ ไลฟ์สไตล์ในชีวิตของคนในบ้าน หลังพิจารณาถึงฟังก์ชั่นแล้ว ค่อยระบุสไตล์ให้เหมาะสมกับตัวบ้าน เพื่อบรรยากาศที่เข้ากัน กลายเป็นเซฟโซนที่คุณเห็นที่ครั้งก็ต้องตกหลุมรัก นอกจากนี้การเลือกซื้อโซฟาไม่เพียงเลือกซื้อเพื่อวางให้ห้องรับแขกเท่านั้น เรายังสามารถวางในห้องอื่น ๆ ได้อีก เช่น ห้องนอน ยิ่งช่วงนี้กระแสรีโนเวทห้องนอนบูมมาก

เปลี่ยนสไตล์ตั้งแต่สีผนัง กระเบื้องปูพื้น เฟอร์นิเจอร์ เติมแต่งด้วยโซฟาเล็ก ๆ ขนาดพอเหมาะให้ห้องดูไม่โล่งเกิน ก็สามารถพิจารณาเลือกซื้อโซฟาตามได้ที่กล่าวมาเหมือนกันเลย!

Shopee 9.9 Super Shopping Day แคมเปญโปร 9.9 สุดยิ่งใหญ่แห่งปี! มหกรรมสินค้าลดราคาจัดเต็ม เริ่มต้นเพียง 9.- ถูกคุ้มทุกวันตลอดทั้งแคมเปญ! พร้อมรับโปรโมชั่นส่งฟรีขั้นต่ำ 0.- และพิเศษกว่าที่เคย เก็บโค้ดส่วนลดสูงสุดถึง 999.- ช้อปได้กับโปรหลากหลายสุดโดนใจ ช้อปได้แล้วตั้งแต่วันที่ 26 ส.ค. - 9 ก.ย. นี้ที่ Shopee 9.9 Super Shopping Day!

ชุตินันท์ หงษ์ทอง, Author

Post a Comment