การเลือกโซฟาอาจะดูเหมือนง่ายเพียงซื้อแล้วเอากลับบ้านวาง แต่ในทางกลับกันคุณจะแน่ใจได้อย่างไรว่าโซฟาที่คุณได้มาจะมีคุณภาพมากเพียงใด?? และคงไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่า"โซฟา" หรือเจ้าเก้าอี้ตัวหนาๆ นุ่มๆ ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของทุกครัวเรือนกันไปแล้ว เพราะนอกจากจะเป็นมุมที่ใช้พักผ่อนนั่งดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือ หรือทำกิจกรรมต่างๆรวมกับครอบครัวแล้ว ก็ยังช่วยเติมแต่งความงามให้กับที่พักอาศัยได้ดีอีกด้วยครับ ประโยชน์เยอะขนาดนี้แล้ว เอาเป็นว่ามาสละเวลากันสักนิดกับเทคนิคดีๆ เพียงไม่กี่ข้อ เพื่อเป็นการเลือกโซฟาที่ดีก่อนตัดสินใจจะควักกระเป๋าซื้อกันครับ
- โซฟาตัวไอ (I) โซฟาประเภทนี้เหมาะสำหรับห้องที่มีขนาดไม่กว้างมากนัก เพราะจะไม่ค่อยกินพื้นที่สักเท่าไร ห้องที่จัดวางก็ อาทิเช่น ห้องนั่งเล่น หรือจะวางตกแต่งไว้ตรงปลายเตียงก็ทำให้ดูลงตัวมากขึ้นครับ - โซฟาตัวแอล (L) เป็นโซฟาเข้ามุม เหมาะสำหรับห้องนั่งเล่นมากที่สุด ลงตัวได้ง่ายกับบ้านที่มีขนาดใหญ่ มักจัดวางชิดผนัง เพื่อทำให้ห้องดูสวยเป็นสัดส่วนหรือจัดวางกลางห้องครับ - โซฟาตัวยู (U) โซฟาประเภทนี้จะเหมาะกับบ้านที่มีสมาชิกมากสักหน่อย และพอมีพื้นที่กว้างพอ ที่จะสามารถวางลงไปได้ เพราะจะค่อนข้างกินพื้นที่ค่อนข้างมาก โซฟาประเภทนี้ก็เหมาะจะตกแต่งบ้านห้องนั่งเล่นหรือเป็นห้องที่ไว้จัดงานปาร์ตี้ก็จะช่วยสร้างสีสันให้ห้องนั้นๆได้ดีไม่น้อยครับ โครงเหล็ก มีน้ำหนักเบากว่าไม้ เพราะทำจากเหล็กโปร่ง สามารถออกแบบให้มีรูปทรงแปลกได้หลากหลาย เป็นงานที่โชว์โครงสร้าง แต่ต้องดูจุดเชื่อมต่อของชิ้นงานด้วยว่า แข็งแรงและรับน้ำหนักได้มากน้อยเพียงใด No-Sag springs ขดลวดรูปตัว S ที่ใช้เป็นฐานเพื่อรองรับน้ำหนักได้เป็นอย่างดี มักจะใช้รองอยู่ด้านใต้ที่นั่งหรือพนักพิงเพื่อเสริมให้โซฟามีความแข็งแรงและนั่งได้สบายไม่แข็งหรือนิ่มจนเกินไป - ความกว้างเบาะที่นั่ง มีตั้งแต่ 60-75 เซนติเมตร เมื่อนั่งแล้วควรเหลือที่ด้านข้างอย่างน้อยข้างละ 15 เซนติเมตร - ความลึกเบาะที่นั่ง มีตั้งแต่ 50-60 เซนติเมตร เมื่อนั่งแล้วควรเหลือระยะห่างระหว่างบั้นท้ายกับพนักพิง ประมาณ 10-15 เซนติเมตร สำหรับวางหมอนอิงได้ - ความสูงของที่นั่ง ที่เหมาะสมกับคนไทยอยู่ที่ 40-45 เซนติเมตร เวลาไปซื้อควรลองนั่งให้สบาย ขาไม่ลอย เพราะ เมื่อเบาะรับน้ำหนักเราแล้ว จะมีการยุบตัวประมาณ 2-4 เซนติเมตร - ความสูงของพนักพิง ขึ้นอยู่กับดีไซน์โซฟาที่มีหลากหลายทั้งสูง- ต่ำ แต่ถ้าชอบนั่งนานๆก็ควรพิงได้เต็มหลัง และเลือกใช้ไส้เบาะนิ่มๆหน่อยครับ ก่อนอื่นต้องดูก่อนเลยว่าเราจะเลือกซื้อโซฟาไปไว้ในห้องใด ห้องนั่งเล่น ห้องนอน หรือห้องดูหนัง จากนั้นดูจำนวนสมาชิกในบ้านว่ามีกี่คน อาทิ บ้านไหนที่มีสมาชิก 5 คน แต่กลับมีโซฟาที่มีที่นั่งเพียง 4 ที่ ก็อาจจะทำให้สมาชิกอีก1คนต้องเป็นคนเสียสละลงนั่งกับพื้นก็ได้นะครับ หรือบ้านไหนที่เป็นหนอนหนังสือ ก็ควรหาเลือกโซฟาที่มีความนุ่ม นั่งแล้วรู้สึกสบาย เพราะอ่านหนังสือแต่ละทีคงไม่ใช่ 5 – 10 นาทีแน่ๆ เพราะฉะนั้น หาที่เรานั่งแล้วรู้สึกสบายไม่นุ่มหรือแข็งจนเกินไปครับ ^^
ข้อดี - มีความทนทาน ใช้ได้นาน มีความหรูหรา ผิวสัมผัสนุ่มสบาย หนังแท้ยิ่งถ้าเรานั่งบ่อยๆจะยิ่งนิ่ม และที่สำคัญเลยคือทำความสะอาดได้ง่าย
ข้อดี - ทำจากวัสดุสังเคราะห์ อาทิ พีวีซี หรือพียู ราคาถูกและทำสีได้หลากหลาย ทำความสะอาดง่าย กันน้ำได้ดีและไม่อมฝุ่น ข้อเสีย – เนื้อผ้าจะหดตัว สีซีดจางหลังจากการซัก ควรเลือกผ้าชนิดที่มีสารเคลือบกันน้ำที่ช่วยให้การทำความสะอาดง่ายขึ้น
โซฟาทุกรุ่นจะต้องบุฟองน้ำ หรือเศษผ้าด้านในอยู่แล้วเป็นปกติ ส่วนเรื่อง ฟองน้ำที่ใช้ก็มีอยู่หลายเกรด เช่นกัน โซฟาตามร้านทั่วไปก็จะนิยมนำฟองน้ำมาบุกันแบบอย่างบางๆ เพราะว่าต้นทุนถูกเวลานั่งก็จะทำให้ผู้นั่งรู้สึกว่าโดนโครงด้านในได้ ในเรื่องของการสังเกตว่าฟองน้ำที่บุด้านในโซฟานั้น แน่นหรือไม่นั้น ให้ผู้ซื้อสังเกตได้โดยการทดลองนั่งโซฟารุ่นที่คุณกำลังจะซื้อนั้นแหละครับ นั่งๆขย่มๆดูสักหน่อย ว่าด้านในแข็งแรง นุ่ม สปริงตัวดี ไม่ใช่พอนั่งไปแล้วโซฟาบุ๋มไปเลย นั้นก็อาจจะแปลได้ว่าโซฟาที่คุณกำลังจะซื้ออาจเป็นของไม่ดีนั้นเองครับ TiP : สำหรับบ้านไหนที่มีผู้สูงอายุ ควรเลือกโซฟาที่มีความแข็งสักหน่อย เพื่อเวลานั่งแล้วผู้สูงอายุจะได้ลุกขึ้นได้สบายเนื่องจากนั่งแล้วไม่จมลงไปในโซฟานั้นเองครับ จบไปแล้วสำหรับการเลือกโซฟา คิดว่าไม่น่าจะมีอะไรยาก เพียงแต่เราต้องพิถีพิถันในการเลือกสักหน่อยเพราะมันจะได้คุ้มค่ากับเงินที่เราเสียไป หวังว่าเรื่องราวของการเลือกโซฟาจะทำเพื่อนๆไม่เลือกโซฟาพลาดกันนะครับ สำหรับวันนี้บ๊ายบาย ^^
Post a Comment